ปวีณา จี้ตร.ประเวศ เร่งคดีพ่อแท้ๆ ขืนใจลูกสาว 14 ปี จนคลอด

17 ตุลาคม 2566 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พา น.ส.อ้อย (นามสมมุติ)อายุ 34 ปี แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายอายุ 14 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เพื่อติดตามคดีที่ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจนตั้งครรภ์ และคลอดลูก 

น.ส.อ้อย ระบุว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือน เมษายน 2565 นายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พ่อแท้ๆ ได้รับ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี ลูกสาว มาจาก จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม โดยให้มาพักอยู่ภายในแคมป์ คนงานก่อสร้าง ซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ ในช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ด.ญ.บี ถูกนายสมชายกระทำชำเรา

หลังเกิดเหตุ ด.ญ.บี หนีไปอยู่กับป้า ที่ซอยอ่อนนุช 66 แยก 19-16 แต่นายสมชายยังตามกลับไปอยู่ด้วยกัน และกระทำชำเราอีกกระทั่งเปิดเทอม จึงส่งตัว ด.ญ.บีกลับไปเรียนที่ จ.บุรีรัมย์ ตามเดิม



จากนั้น ช่วงวันหยุดปีใหม่ ระหว่างปลายธันวาคม 2565 ถึงต้น มกราคม 2566 นายสมชายเดินทางกลับไป จ.บุรีรัมย์ และได้กระทำชำเรา ด.ญ.บี อีก ต่อมา ช่วงปิดเทอม เมษายน ที่ผ่านมา นายสมชายไปรับ ด.ญ.บี กลับมายังแคมป์คนงานก่อสร้างที่เดิมใน กรุงเทพฯ เพื่อกระทำชำเรามาอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง พฤษภาคม 2566 ด.ญ.บี ย้ายมาเรียนที่ กรุงเทพ ชั้น ม.2

จนถึงช่วง สิงหาคม ครูสังเกตว่า ด.ญ.บี อาจตั้งครรภ์ จึงแจ้งป้าให้ตรวจสอบ ผลปรากฏว่าตั้งครรภ์จริง ป้าจึงได้พา ด.ญ.บี กลับไปยัง จ.บุรีรัมย์ เพื่อที่จะพาไปทำแท้ง เพราะคิดว่าลูกสาวท้องเพียง 1 เดือน แต่ทางแพทย์ไม่สามารถทำให้ได้เพราะลูกสาวท้องมาแล้ว 7 เดือน ต่อมา วันที่ 17 สิงหาคม ตนทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้รับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยกันที่ กรุงเทพฯ กระทั่งลูกสาวได้คลอดบุตรไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

น.ส.อ้อย ระบุอีกว่า ตนเลิกรากับนายสมชายไปตั้งแต่ลูกสาวอายุ 3 ขวบ มีลูกสาว 2 คน คนโตอาศัยอยู่กับพี่สาวนายสมชาย ซึ่งทางครอบครัวนั้น เลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนหนังสือมาโดยตลอด และหากลูกสาวประสงค์จะขอกลับมาอยู่ด้วยกับตนก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของตัวบุตรสาว 
 

ส่วนสาเหตุที่ลูกสาวคนเล็กต้องอยู่กับนายสมชาย เพราะตอนที่เลิกรากัน ตนเป็นฝ่ายหนีออกมาเพราะทนกับพฤติกรรมของนายสมชายไม่ไหว ทั้งการเสพยาและถูกทำร้าย ประกอบกับขณะนั้นไม่มีเงิน จึงทำให้ไม่อยากพาลูกมาลำบากด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น 



เมื่อสอบถามลูกสาวได้ความว่า ถูกพ่อกระทำชำเราจริงและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม จากนี้ต้องคอยดูแลลูกสาว พร้อมช่วยกันเลี้ยงดูเด็กที่คลอดมากันต่อไป

นางปวีณา กล่าวว่า กรณีนี้เป็นคดีในครอบครัว ที่ภาครัฐทุกหน่วยต้องบูรณาการป้องกัน โดยทั้งแม่และลูกสาวเข้ามาร้องเรียนที่มูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้ประสานงานกันตลอดกับ สน.ประเวศหลังจากนี้จะต้องคอยเยียวยาสภาพจิตใจทั้งแม่และลูกสาว พร้อมประสานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อเยียวในส่วนของเงินช่วยเหลือ และประสานกับทางโรงเรียนให้เด็กได้เข้าเรียนหนังสือต่ออีกด้วย

ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ ระบุว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากที่ทราบเรื่องก็ได้มีการเชิญเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพมาร่วมกับผู้ปกครองซักถามข้อมูลจากเด็กหญิงผู้เสียหาย และได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน นำหมายจับของศาลอาญาพระโขนงไปที่แคมป์คนงาน ซอยอ่อนนุช 70/1 พาตัวามาสอบปากคำที่โรงพักเรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้น นายสมชายให้การภาคเสธ ระบุ เพียงแค่นอนหยอกเล่นเท่านั้น แต่เมื่อเค้นสอบปากคำ เจ้าตัวก็รับสารภาพว่า เมื่อนอนกอดลูกสาวแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ ก่อนลงมือกระทำชำเราลูกสาว 3 ครั้ง ซึ่งตรงกับที่ตัวเด็กหญิงเคยให้การไว้ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องสอบปากคำนายสมชายอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมเก็บพยานหลักฐานเพื่อตรวจดีเอ็นเอ จากนั้นจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาพระโขนงในวันพรุ่งนี้