
หลังเกิดเหตุพ่อแม่ ร่วมกันฝังดินโบกปูนทับอำพรางลูกสาววัย 2 ปีใต้พื้นครัวหลังบ้าน ในจ.กำแพงเพชร เบาะแสสำคัญได้มาจากลูกสาวคนโตที่เล่าให้กับทางเจ้าหน้าที่ฟัง คดีนี้เริ่มมีความซับซ้อน ขณะที่ตำรวจได้เกาะติดความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 ว่า จุดเริ่มต้นของคดีนี้เริ่มจาก การที่ตนเป็นรองหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศพดส.ตร. นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในพื้นที่ ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบโดยตำแหน่งด้วย โดยมีการทำงานในลักษณะนี้มาแล้วหลายปี ร่วมกับ นักสังคมสงเคราะห์จาก รพ.รามาธิบดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ ระบุอีกว่า หลังจากที่มีการประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีพูดคุยกับถึงกรณีที่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เข้าไปช่วยเหลือเด็กหญิงที่ถูกทำร้ายร่างกาย 3 คน เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดในครั้งแรกทราบว่า เด็กที่ถูกช่วยมานั้น รายแรก มีร่องรอยถูกความร้อนจี้ตามตัว อีกรายขาพิการ และ รายสุดท้ายคือ มีอาการปากแหว่งเพดานโหว่ แต่จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของ แพทย์ รพ.รามาฯ สังเกตเห็นว่าอาการดังกล่าวอาจไม่ได้เป็นมาตั้งแต่กำเนิด เพราะมีการเปรียบเทียบภาพถ่ายของเด็กก่อนหน้านี้ที่มีอาการปกติทุกอย่าง
" ต่อมาทางแพทย์ได้มีการพูดคุยกับเด็กอายุ 12 ปี ที่ได้รับการช่วยเหลือมา จนพบว่า ถูกพ่อและแม่ทำร้าย ส่วนน้องที่หายไปเจ้าตัวระบุว่าถูกพ่อกับแม่ฆ่าตาย และเอาร่างไปไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง จึงได้ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบว่าตัวพ่อและแม่ของเด็กเป็นใคร รวมถึงมีบ้านอยู่ที่ จ.ตรัง และ จ.กำแพงเพชร ต่อมาก็ได้รับการประสานมาจากนักสังคมสงเคราะห์ของ รพ.รามาฯ แจ้งว่า ทางแม่ของเด็กหญิงที่หายไปนั้น ได้ระบุว่า ลูกสาวถูกปู่แท้ๆรับไปดูแลที่ จ.ตรัง"
จากนั้นทางด้านพล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยเริ่มจากเรียกประชุมทางไกล และ สั่งการไปยังตำรวจในพื้นที่ จ.ตรัง เพื่อให้ไปสอบถามกับทางปู่แท้ๆของเด็กหญิงรายนี้ แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า เจ้าตัวไม่ได้เดินทางมารับหลานแต่อย่างใด และเมื่อสอบถามถึงพฤติกรรมของลูกชาย ก็ได้รับคำตอบว่า ปกติแล้วลูกชายไม่ได้เดินทางกลับบ้านมานานมากแล้ว แต่มีนิสัยชอบใช้ความรุนแรง ก่อนจะมีการขยายผลการสืบสวนต่อเนื่องไปที่ จ.กำแพงเพชร
“เราได้ไล่ตรวจสอบว่ามีรถต้องสงสัยของสองสามีภรรยา ขับเข้าไปในพื้นที่บ้างหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบรถคันดังกล่าวขับเข้าไปในพื้นที่ และยังพบว่ามีการขับไปซื้อถุงปูนเข้าไปที่บ้านอีกด้วย รวมถึงมีการสอบปากคำผู้ใหญ่บ้านและพยานแวดล้อม ก็ได้รับการยืนยันว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีรถของสองสามีภรรยาเข้ามาในพื้นที่จริง”
ต่อมาวันที่ 19 กันยายน ทางผู้บังคับการจังหวัดตรัง ได้ประสานกลับมาว่า ทางพ่อของนายส่องศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้มีการพูดคุยกับลูกชายแล้ว และทางลูกชายก็รับสารภาพว่า ฆ่าลูกจริง ก่อนจะนำไปฝัง ซึ่งทางผู้ต้องหาและพ่อของผู้ก่อเหตุก็อยู่ในอาการเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงเชื่อว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริง จึงได้มีการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 เพื่อติดตามตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมดมาสอบปากคำ กระทั่งสามารถจับกุมตัวทั้งพ่อ และ แม่ ของเด็กเอาไว้ได้ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้งหมดไปยังจุดที่ฝังศพ ในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร และก็พบร่างของเด็กหญิงถูกฝังจริง ตามที่มีเสนอข่าวไปแล้ว
“หลังจากนี้จะมีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง จะต้องตรวจสอบว่าภรรยาและลูกที่เหลืออยู่ที่ใดบ้าง ในเบื้องต้นทราบแล้วว่านายส่องศักดิ์ มีภรรยา 4 คน ลูก 10 คน หลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบว่าเด็กทั้งหมดยังอยู่หรือไม่ เพื่อความปลอดภัย รวมถึงทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ได้มีการตั้งทีมสืบสวนจาก บช.น. ร่วมกับ ทีม ศพดส.ตร. โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ก็ได้กำชับให้มีการทำงานร่วมกัน โดยขณะนี้มีความก้าวหน้าไปมากพอสมควร”