"อธ.ศาล ภ.4" ร่วมศาลเยาวชนฯ ภ.4 ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนความรู้ "จุฬาฯ"
อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 4 ร่วมงาน ศาลเยาวชนและครอบครัวภาค 4 ลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับทางคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ให้นักศึกษาเข้าไปเรียนรู้การใช้กฎหมายจริงนอกจากตำราเรียน
3 กันยายน 2566 ที่โรงแรมพูลแมน ราชาออคิด ขอนแก่น คณะผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัว ภาค 4 จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 มีกิจกรรมทาง วิชาการหลากหลายทั้ง การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับศาลเยาวชนและครอบครัวในภาค 4 นอกจากนี้ยังมีพิธีเชิญธงประจำภาค ของผู้พิพากษาสมทบศาลเยาวชนและครอบครัวภาค4 และธงประจำศาลเยาวชนและครอบครัวทั้ง 12 ศาล
นายโชคชัย รุจินินนาท อธิบดีผู้พาพกษาภาค 4 กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการให้ความช่วยเหลือและเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมได้โดยสะดวกรวดเร็วการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองและองค์ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสาเหตุการกระทำความผิดและแนวทางการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูแก่เด็กและเยาวชน
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานโครงการและกิจกรรมเกี่ยวกับการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิดของศาลเยาวชนและครอบครัวภาค4 เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันอันเป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งคณะผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวภาค 4
ด้าน ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวณิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ที่ทางคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะได้มีความร่วมมือ กับเครือข่ายของศาลเยาวชน ในเขตภาค 4 เนื่องจากว่าหากมีการมองกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ทางคณะนิติศาสตร์เป็นต้นทาง ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าเป็นคนผลิตนักกฎหมายเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมเพราะฉะนั้นการที่เด็กจะได้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกับศาล ในลักษณะของการให้เด็กมาฝึกงานได้มีโอกาสเรียนรู้ว่าการใช้กฎหมายในความเป็นจริงกับการใช้กฎหมายที่ได้เรียนในตำราเป็นอย่างไร
"ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของเขาก่อนที่เค้าจะออกสู่โลกความเป็นจริง ในขณะเดียวกันทางคณะนิติศาสตร์จุฬาลงกรณ์ก็มีองค์ความรู้มีนักวิชาการต่างๆที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานของศาล ตรงนี้คิดว่าภาคทฤษฎีภาควิชาการ มาทำงานกับทางภาคปฏิบัติ แล้วสอดประสานกันได้อย่างดี จะทำให้กระบวนการยุติธรรมจะสามารถพัฒนาไปได้อย่างสอดคล้องกับบริบทความเป็นจริงและสอดคล้องกับทางวิชาการที่ควรจะเป็น" ผศ.ดร.ปารีณา กล่าว
