svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สตม.จับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 คดี พร้อมทำงานเชิงรุกร่วมกับจีน

19 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ สตม. แถลงจับหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายสำคัญ 2 คดี เสียหายรวมกว่า 2,300 ล้านบาท ทั้งหลอกลงทุนคริปโตปลอม และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ให้โอนเงิน หลังได้รับประสานจากจีน ส่งข้อมูลมาให้ พร้อมทำงานร่วมกันป้องกันปัญหาในอนาคตต

19 พฤษภาคม 2566 เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีน 2 คดี

ผบช.สตม. กล่าวว่า คดีที่ 1 จับกุม นายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี และนายหวง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สัญชาติจีน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน หลอกลงทุน คริปโตฯ ปลอม สร้างความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ภายหลังได้รับการประสานงานจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเมืองเซี่ยงไฮ้ ให้ตรวจสอบหลังหลบหนีเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย จนกระทั่งวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า นายหลี่พักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ส่วนนายหวงได้พักอาศัยอยู่คอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านวัฒนา กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นต่อศาล เพื่อเข้าตรวจค้นทั้งสองที่ และจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด

สตม.จับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 คดี พร้อมทำงานเชิงรุกร่วมกับจีน

จากการสืบสวนทราบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ลักษณะเป็นการโฆษณาชักชวนให้ลงทุนบนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า GOLD TIANLI , EXCELLENT TRADING HALL, SINA FINANCE, JINYU INTERNATIONAL ซึ่งเป็นการลงทุนเกี่ยวกับคริปโตฯ ( CRYPTOCURRENCY) โดยจะมีการชักชวนประชาชนจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เมื่อมีคนหลงเชื่อจะทำการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่น และชักชวนหลอกลงทุน อีกทั้งยังมีการจัดหาพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จะมีการหลอกลวงและบังคับคนเข้าทำงานกับแก๊งดังกล่าว

สำหรับคดีต่อมา พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ กล่าวว่า ตำรวจ สตม. ได้จับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน เชื่อมโยงกว่า 8,500 คดี ความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท โดยทางตำรวจได้รับการประสานงานจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน หลัง นางหยาง อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับรายสำคัญ หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกประชาชนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ ให้โอนเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท โดยตั้งฐานอยู่ที่ เขตปกครองพิเศษว้า ประเทศเมียนมาร์ แล้วหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ

สตม.จับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 คดี พร้อมทำงานเชิงรุกร่วมกับจีน

ภายหลังสืบทราบว่า นางหยางได้หลบซ่อนอยู่ในบ้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ขอหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบตัวนางหยาง และโทรศัพท์มือถือ จำนวนหลายรายการ จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องที่กฎหมายกำหนด จึงได้ทำการจับกุมในข้อหา “เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีการแถลงผลการกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงวันที่ 4-13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สตม.สามารถจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนด (Overstay) ได้ทั้งสิ้น 1,272 ราย สตม.จับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 คดี พร้อมทำงานเชิงรุกร่วมกับจีน

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีน เข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ก็ได้มีการสั่งการเชิงรุก พร้อมประสานงานร่วมกับทางจีนแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน โดยทางจีนจะส่งข้อมูลคนจีนที่มีหมายจับมาให้ทั้งหมด จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้สืบสวนและจับกุมบุคคลเหล่านี้มาดำเนินคดี ถือเป็นการป้องกันเหตุล่วงหน้า ในส่วนของสถิติการก่อเหตุของคนจีนที่เข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศไทย พบว่าขณะนี้มีทั้งสิ้น 7 คดี และทั้งหมดก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมหมดแล้ว

logoline