รวบหนุ่มศรีมหาโพธิ สร้างเฟซบุ๊กหลอกขายสารพัดสินค้า เหยื่อสูญเงิน 8 ล้าน

28 มีนาคม 2566  ตำรวจสืบสวนนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมหนุ่มหลอกขายของออนไลน์ นายธวัชชัย สุวรรณพิทักษ์ หรือหนุ่ม อายุ 34 ปี ชาวอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง” และ “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งฯ” โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านของเพื่อนสนิท ภายในหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์กรีนวิล หมู่13 ตำบล หนองโพรง อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี หลังผู้ต้องหาได้หลบหนีการประกันตัวไปกบดาน และก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

การจับกุมตัวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออนไลน์ ตำรวจสืบสวนนครบาล ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่าถูกคนร้ายในนาม “นายหนุ่มศรีมหาโพธิ” ตัวการใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ อาทิ 

• ชื่อบัญชี “Joyamity Zaza”
• ชื่อบัญชี “Freedom”
• ชื่อบัญชี “Freedom Hut”
• ชื่อบัญชี “Farmhot Freedom”
• ชื่อบัญชี “สวีทเอเดนท์ เฮ้าท์”
• ชื่อบัญชี “วรานนท์ ซัพพลาย”

จากนั้น เข้าไปโพสต์หลอกขายสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย หนังสือพระ เหรียญพระเครื่อง ตู้สแตนเลสใส่น้ำแข็ง ฯลฯ ในกลุ่มสินค้ามือสองต่างๆ ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อ เดือนละกว่า 40 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 8 ล้านบาท

ตำรวจสืบนครบาล จึงเร่งสืบสวนเพื่อตัดวงจรการกระทำความผิด ทราบว่าหนีมากบดานที่บ้านเพื่อนสนิท ภายในหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์กรีนวิล จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัวเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 มี.ค.66)

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นลูกจ้างเฉพาะกิจของ อบต.ในพื้นที่ศรีมหาโพธิ แต่เงินเดือนไม่พอใช้ เนื่องจากติดเล่นพนันออนไลน์ และในปี 2563 ได้เริ่มก่อเหตุครั้งแรกด้วยการร่วมกับเพื่อนสนิท ร่วมกันสร้างเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์หลอกขายหน้ากากอนามัย ในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ต่อมาเมื่อเพื่อนถูกจับกุมถูกดำเนินคดีอยู่ในเรือนจำ จึงหันมาก่อเหตุเอง 

ทั้งนี้ได้โพสต์หลอกขายสินค้าที่หลากหลายกว่าเดิมในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ กว่า 400 กลุ่ม ก่อนถูกตำรวจ สน.บางนา จับกุม ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แล้วหลบหนีระหว่างประกันตัว และยังก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าไม่รู้จะไปประกอบอาชีพใด ส่วนเงินที่ได้มาจะนำไปเล่นพนันออนไลน์ และใช้จ่ายในครอบครัว

เบื้องต้น จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าปัจจุบันมีหมายจับอยู่ 10 หมาย เคยก่อเหตุมาแล้วทั่วประเทศ และอยู่ระหว่างหลบหนี ทั้งนี้ ทางตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปัว จังหวัดน่าน พร้อมทั้งประสานให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในส่วนของหมายจับอายัดตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป