“โอ๋ บางบอน” ย่องเบา-เปลี่ยนชุดหลบหนี แต่ไม่รอดมือตำรวจ
รวบแล้ว “โอ๋ บางบอน” นักย่องเบาจากยโสฯ ตระเวนลักทรัพย์บ้านพัก ร้านค้า ย่านฝั่งธนฯ มีอุบายเปลี่ยนชุดเพื่ออำพรางระหว่างหลบหนี แต่ไม่รอดถูกแกะรอยวงจรปิด ก่อนถูกรวบตัว คำสารภาพ ไม่มีงานทำ ติดการพนัน-เสพยา ทรัพย์สินที่ได้นำไปขาย ใช้เงินหมดกลับมาก่อเหตุใหม่
17 มีนาคม 2566 หลังจากคนร้ายก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ชาวบ้าน ย่านบางขุนเทียน บางบอน ท่าข้าม เพชรเกษม รวมไปถึงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ สร้างความเดือดร้อนชาวบ้านจำนวนมาก ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนได้มีการส่งทีมนักสืบจากนครบาลแกะรอยสืบสวนจนสามารถจับกุมคนร้าย ขณะเพิ่งลงมือลักทรัพย์ตามบ้านเรือนได้ไม่นาน
โดยคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้คือ นายวัชระ ไชยช่วย หรือ "โอ๋ บางบอน" อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาจ.ยโสธร โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบริษัทแลนด์โก้สปอร์ต แอนด์ มิวสิคเคิล จำกัด ซ.กาญจนาภิเษก 2 ย่านบางบอน กทม. พร้อมของกลางรวมกว่า 10 รายการ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยอีกว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจากหลายท้องที่ ว่า ถูกชายไม่ทราบชื่อ ตระเวนลักทรัพย์ภายในบ้านพักและร้านค้าในพื้นที่จำนวนหลายราย จากนั้นได้แจ้งขอความช่วยเหลือผ่านทาง ลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล และได้เข้าแจ้งความที่สน.ท่าข้ามเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566
โดยผู้เสียหายรายนี้ถูกขโมยทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 30,000 บาท ตำรวจได้สืบสวนแกะรอยตามภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ และแกะรอยจากเส้นทางที่คาดว่าคนใช้จะใช้หลบหนีและหลบซ่อนตัว จนกระทั่งพบภาพ คนร้ายพฤติการณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่ โดยคนร้ายจะเลือกบ้านพัก หรือร้านค้าที่เปิดประตูทิ้งไว้ และเมื่อเห็นว่าสถานที่ไหนไม่มีคนอยู่ หรือเผลอตัว ก็จะจอดรถจักรยานยนต์แล้วเดินเข้าไปหยิบฉวยทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้าน แล้วขี่รถหลบหนีไป พร้อมกับเปลี่ยนชุดแต่งกาย เพื่อพรางตัว
จากการสอบสวน นายวัชระ ยอมรับว่า ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนคนรู้จักมาใช้ก่อเหตุ และถอดป้ายทะเบียนออก เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว จากนั้นจะขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนเลือกสถานที่ที่เปิดประตูบ้านไว้ หรือพลั้งเผลอไม่ระวังตัว เมื่อได้ทรัพย์สินที่ถูกลักมาแล้ว จะขี่รถไปในพื้นที่ซอยเปลี่ยว หรือลับตาผู้คน ก่อนลงมือเลือกทรัพย์สินที่สามารถนำไปขายหรือใช้งานต่อเก็บไว้ ส่วนที่เหลือจะโยนทิ้งไป เมื่อได้ทรัพย์สินจนพอใจแล้วจะขี่รถที่ยืมมาไปเพื่อนตามปกติ
นายวัชระ ระบุ ตัวเองไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ประกอบกับติดการพนันออนไลน์และเสพยาเสพติดเป็นประจำ จึงได้ตระเวนลักทรัพย์เรื่อยมาเพื่อหาเงินมาซื้อยาเสพติดและเล่นพนันออนไลน์ ใช้พาหนะรถจยย.ของเพื่อน และบางครั้งใช้วิธีเดินเท้าเลือกหา เมื่อได้ทรัพย์สินที่ลักมาแล้วจะนำไปขายยังสถานที่ต่างๆ เมื่อเงินหมดก็จะกลับมาก่อเหตุใหม่
หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จึงได้นำตัว นายวัชระฯ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
