13 มีนาคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำแผ่นป้ายไวนิลแฉ รายชื่อตำรวจล็อต 2 เอี่ยวพนันออนไลน์ - แก๊งมิยาบิ โดย มีพ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ รองผู้บังคับการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(รอง ผบก.สง.ก.ตร.) นายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า แก๊งมิยาบิ มี “พล.ต.อ.” นายหนึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และการประมูลสร้างอาคารโรงผลิตกระสุน 10 แห่ง ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 (บช.ภ. 1 - 9 ) และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เมื่อตรวจสอบพบว่า อาคารแห่งนี้ถูกปล่อยร้าง ไม่สามารถผลิตกระสุนหรือจัดเก็บดินปืน หรือวัตถุที่ใช้สำหรับผลิตกระสุนได้ ทั้งที่มีการใช้งบประมาณไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งนายตำรวจ "พล.ต.อ." ได้สั่งการให้ พล.ต.ท. มือซ้าย เป็นผู้เชี่ยวชาญจัดซื้อจัดจ้าง และมีล็อบบี้ยิสต์ คือ "นายโต" และ "ปุ๋ย ชลบุรี" ดำเนินการจัดหาผู้รับเหมา
"ตนเตรียมนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินให้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป"
ขณะเดียวกัน นายอัจฉริยะ ได้นำภาพลูกชายอดีตนายตำรวจระดับ “ผู้บังคับการ(ผบก.)ภาคตะวันออก” ที่เป็นตำรวจ ร.ต.ท. และเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ พร้อมเปิดเผยว่า นายตำรวจคนนี้มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้าน ซึ่งตนเคยร้องเรียนไปยัง ผบ.ตร. แม้ไม่มีความคืบหน้า ตนก็จะเดินหน้าเปิดโปงขบวนการเว็บพนันต่อไป
ขณะที่ นายอัจฉริยะ ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายวีรโชติ เหยื่อที่ถูกดำเนินคดีข้อหาสมคบยาเสพติดและฟอกเงินเมื่อปี 2563 และถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ 2 ปี
โดยนายวีรโชติ ระบุว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่กลับถูกดำเนินคดี เนื่องจากมีพยานชี้ตัวผิด ทำให้ถูกจำคุกและต้องต่อสู้คดีในคุก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองจนสามารถออกมาต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ด้านนายอัจริยะ กล่าวต่อว่า เรื่องของนายวีรโชติแสดงถึงความเหลื่อมล้ำในการทำคดี 2 มาตรฐาน ของตำรวจกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 โดยเฉพาะคดี “สว.ทรงเอ” ที่ อัยการสูงสุดสั่งให้ตำรวจหน่วยนี้ ดำเนินการในข้อหาเดียวกันแต่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ อีกทั้งตำรวจชุดที่จับกุม “ทุนมินลัต” กลับถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม
"ในอีก 2 สัปดาห์ ตนจะนำรายชื่อตำรวจ ทหาร และ บุคคลที่มีชื่อเสียง ที่ไปเล่นการพนันบ่อนของ อัลลัวร์ กรุ๊ป มาเปิดเผยที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รอบที่ 3" นายอัจฉริยะ ระบุ
ส่วนคดีที่ถูก “สว.ทรงเอ” ฟ้องหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนจะสู้คดีเต็มที่ พร้อมกับให้ตำรวจที่ทำคดีทุนมินลัต ขอหมายจับ “สว.ทรงเอ” มาเป็นพยานในคดี ส่วนที่สว.ทรงเอ อ้างพยานในคดีลำดับที่ 6 คือ อดีตผบ.ตร. เรื่องนี้ตัวเองสอบถามไปยังคนใกล้ชิดอดีต ผบ.ตร.แล้ว ได้รับการชี้แจงว่าอดีตผบ.ตร.ไม่ทราบเรื่อง ซึ่งตนเชื่อว่าประเด็นนี้ต้องมีเบื้องหลัง เนื่องจากตัวเองและอดีตผบ.ตร.เคยทำงานร่วมกันในหลายๆ คดี สมัยที่ยังดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.
ขอย้ำว่า ตัวเองรู้ว่า นายตำรวจใหญ่ใน ตร. ที่โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.ท.มานะพงศ์ ถึงเหตุผลการขอหมายจับ สว.ทรงเอ และอดีตผู้บังคับบัญชาที่โทรศัพท์ตำหนิ ตำรวจที่ออกหมายจับ สว.ทรงเอ คือใคร แต่ขอให้ทางนายรังสิมันต์ โรม เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลชุดนี้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ในช่วงบ่ายวันนี้