svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ชูวิทย์" สับเละ "ตร.- อัยการ" ทำสำนวนคดี "ตู้ห่าว" เปิดช่องให้หลุดคดี

05 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชูวิทย์" สับเละ "ตร.- อัยการ" ทำสำนวนคดี "ตู้ห่าว" เปิดช่องมีโอกาสหลุดคดี พร้อมแฉหลักฐาน - พยาน คนใกล้ชิด "ตู้ห่าว" เพิ่ม ลั่นขอตามกัดติดคดีทุนจีนสีเทาจนถึงวันตัดสิน

5 มกราคม 2566 ความคืบหน้าคดีทุนจีนสีเทา และ "นายตู้ห่าว" ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางฝั่งตำรวจ และผู้เกี่ยวข้อง ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว  พร้อมกับมีการนำภาพกล้องวงจรปิด ภายใน "ผับจินหลิง" ที่พบว่า มีการเปิดให้บริการยาเสพติด และเปิดลักลอบให้เล่นการพนันคล้ายกาสิโน

ซึ่งเป็นช่วงขณะตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าไปตรวจค้น พบผู้เล่นการพนันกำลังวิ่งหลบหนี และปรากฎภาพพนักงาน ขนอุปกรณ์การเล่นพนัน ออกจากอาคารไปด้านหลัง ส่วนภายในอาคารจินหลิงผับ ก็มีนักท่องเที่ยววิ่งหลบหนี และมีภาพวงจรปิดภายในห้องเก็บของพบว่า พนักงานได้ใส่สิ่งของคล้ายยาเสพติด ลงในตระกร้าเครื่องดื่ม ก่อนจะส่งไปให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง
 

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังได้นำพยานที่เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างหลายแห่ง ที่ภูเก็ตและชลบุรี ที่ "นายตู้ห่าว" ได้ว่าจ้างให้มาตกแต่ง และทำระบบโครงสร้างกว่า 10 คน โดยทุกคนนายชูวิทย์ได้พาไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว เนื่องจาก "นายตู้ห่าว" ค้างค่าจ้างกับผู้รับเหมาทุกรายตั้งแต่ 1.5 - 36 ล้านบาท 

หนึ่งในผู้รับเหมา กล่าวว่า หลังจากได้ร่วมทำงานกับ "นายตู้ห่าว" มาตั้งแต่ปี 59 นายตู้ห่าวได้เป็นผู้ติดต่อว่าจ้าง และจ่ายเงินบางส่วนมาโดยตลอด แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็ยังมีค่าจ้างค้างอยู่จำนวนมาก และไม่สามารถติดต่อได้ ผู้รับเหมาบางคนต้องนำรถยนต์ และบ้านไปจำนอง จนเป็นหนี้สิน และเมื่อทราบข่าวว่า นายตู้ห่าวถูกจับจากคดีทุนจีนสีเทา จึงติดต่อมาที่นายชูวิทย์ เพื่อไปให้ปากคำกับอัยการ และไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ

นอกจากนั้นนายชูวิทย์ ได้นำพยานคนหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นคนใกล้ชิดกับนายตู้ห่าว และให้ข้อมูลว่า เห็นนายตู้ห่าวสั่งให้คนไปถอนเงินสดครั้งละ 20 - 30 ล้านบาทต่อวัน จากธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นเงินจากประเทศจีนที่โอนเข้ามาในไทย และได้ไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว โดยที่ไม่ผ่านตำรวจ เพราะไม่ไว้ใจการทำงานเช่นกัน
\"ชูวิทย์\" สับเละ \"ตร.- อัยการ\" ทำสำนวนคดี \"ตู้ห่าว\" เปิดช่องให้หลุดคดี
 

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวระหว่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการที่ทำคดีว่า มีการทำคดีร่วมกันจนสำนวนคดีมีความสมบูรณ์แล้ว แต่นายชูวิทย์ไม่เห็นด้วย เนื่องจากพบว่า มีพยานหลักฐานบางส่วน ที่ไม่นำเข้าสู่สำนวน และเห็นว่าสำนวนคดียังช่วยเหลือ "นายตู้ห่าว"

โดยเฉพาะตั้งแต่การเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแบบเว้นวรรค ไม่เข้าตรวจต่อเนื่อง โดยอ้างว่า ไม่มีอำนาจเข้าตรวจสอบ มีการขยักหลักฐานไม่นำเข้าสำนวน โดยบอกว่า มีหลักฐานเยอะแล้ว ส่วนรถยนต์หรูที่เป็นของกลาง ก็มีการปล่อยกลับไปให้ผู้ต้องหาอีกด้วย

“นอกจากนั้น ยังไม่ตั้งข้อหาการรับผลประโยชน์ ของนายตำรวจที่ทำคดี ไม่มีการสอบปากคำหญิงชาวจีนคนหนึ่ง ที่มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดใน สน.ยานนาวา ว่านำถุงกระดาษที่ภายในมีเงินสด 6 แสนบาท ไปวางไว้บนโต๊ะในห้องรองผู้บังคับการ รักษาการผู้กำกับการ เพื่อขอนำรถยนต์หรูยี่ห้อปอร์เช่ ที่ถูกยึดจากจินหลิงผับออกไป” 
การแถลงคดี "ตู้ห่าว" ของ ตร. และอัยการสูงสุด


ขณะเดียวกันยังไม่มีการตรวจเลขตัวถังรถยนต์ ที่ยึดได้ทั้ง 11 คัน และปล่อยตัวหลานของ "นายตู้ห่าว" ออกไปจนหลบหนีออกนอกประเทศ และยังพบว่า ให้นายตำรวจที่คุมสำนวนคดีนี้ เป็นตำรวจคนเดียวกับที่ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป

สำหรับหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือ กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ นายชูวิทย์ได้นำแผนผังของพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ อาคารร้านล้างรถยนต์ อาคารจินหลิง และอาคารลีลา โดยเซิฟเวอร์ที่บันทึกกล้องวงจรปิดแบ่งเป็น 4 ส่วน โดยส่วนที่เยอะที่สุดคือ อาคารลีลา มีกล้อง 68 ตัว จินหลิง และอาคารล้างรถ ที่ละ 20 ตัว แต่พนักงานสอบสวนได้ส่งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบมีเพียง 1 เซิฟเวอร์ คือที่จินหลิง แต่ตรวจสอบไฟล์ได้เพียงวันที่ 21 - 26 ต.ค. 65 และไม่ตรวจสอบเชิฟเวอร์ของอาคารลีลา ที่เปิดให้เล่นการพนันได้
ชูวิทย์ แฉแผนผังของผับจินหลิง

"เห็นได้ว่าเป็นการให้ความช่วยเหลือกับนายตู้ห่าว ที่ไม่ตั้งข้อหาจัดให้เล่นการพนัน ยังมีคลิปวิดิโอวงจรปิดอีกกว่า 1,500 คลิป ที่ยังไม่ได้เปิดเผย และเชื่อว่า ตำรวจมีทั้งหมด แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวนเอง และยังพบว่า ชะลอการตั้งข้อหาฟอกเงิน กับ "นายตู้ห่าว" เพราะเงินในบัญชีเหลือไม่มาก เนื่องจากถูกยักย้ายออกไปทั้งหมดแล้ว และออกหมายจับในวันที่ 22 พ.ย. 65 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเข้าตรวจค้นเกือบ 1 เดือน"

ส่วนการตรวจสอบรถยนต์หรูของ "นายตู้ห่าว" พบว่า เป็นรถเช่าจากบริษัทหนึ่งที่นายชูวิทย์ อ้างว่า มีหลานของนักการเมืองเป็นเจ้าของบริษัท และตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดนายตู้ห่าวขับรถยนต์หรูจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินไปจ่ายให้กับผู้รับเหมาที่ติดค้างอยู่จำนวนมาก 

ส่วนข้อมูลทั้งหมดที่นายชูวิทย์ได้มานั้น เชื่อว่า ตำรวจมีทั้งหมดแล้ว แต่ไม่นำเข้าสู่สำนวน โดยไม่ทราบว่าเหตุใดถึงไม่นำเข้า และข้อมูลที่ได้มาทั้งหมด เป็นข้อมูลของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหลังจากนี้จะติดตามคดีนี้ จนถึงกระบวนการในชั้นศาลว่า ผลตัดสินจะออกมาอย่างไร

นายชูวิทย์ ยืนยันว่า การนำข้อมูลของทุนจีนสีเทาออกมาเปิดเผยเหล่านี้ จะไม่เป็นการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย มาทาบทามให้เข้าร่วมในพรรค และจะให้มาร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ต่อ นายชูวิทย์ ยืนยันว่า จะขอทำหน้าที่การตรวจสอบ ของภาคประชาชน เพราะหากภาคประชาชนไม่เข้มแข็ง ก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ 

“ยืนยันไม่ใจอ่อนที่จะเล่นการเมือง เพราะได้ประกาศไปตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แต่จะผลักดันให้นำเรื่องนี้ ให้เข้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน ในสภาครั้งสุดท้ายให้ได้”

นายตู้ห่าว นักธุกิจทุนจีนสีเทา ผู้ต้องหาคดียาเสพติด และอาชญากรรมข้ามชาติ
 

logoline