31 ธันวาคม 2565 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผู้กำกับการ วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. นำกำลังจับกุม นายหมวดตรี วิทวัส หรือบาส (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาหลอกร่วมลงทุนประมูลผลิตเครื่องแบบรัฐเสียหายกว่า 17 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้ ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนจากประชาชนซึ่งถูกอาจารย์บาส หรือหมวดตรี ใช้กลอุบายโพสต์เชิญชวนคนที่อยากหารายได้เสริมผ่านเพจเฟซบุ๊ก "ชมรมลูกเสือสัมพันธ์" โดยส่งข้อความเชิญชวนให้ร่วมลงทุน รับเหมาหรือรับจ้างทำงานตัดชุดเครื่องแบบของหน่วยงานราชการต่าง ๆ อ้างได้ผลตอบแทนสูง
นอกจากนี้ยังมีการลงภาพกับหน่วยงานต่าง ๆ ในโซเชียล อาทิ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยให้โอนเงินค่าลงทุนเข้าบัญชีธนาคาร ของบริษัท แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่ได้เงินตามที่ตกลงกันไว้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกว่า 17 ล้านบาท
เมื่อตรวจสอบประวัติ นายวิทวัส เคยถูกจับกุมในคดีลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง อีกทั้งยังมีหมายจับติดตัว 3 หมาย จากนั้นตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ ก่อนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหา ได้ที่บริเวณลานจอดรถชั้น 4 ภายในห้างสรรพสินค้า ย่านพระราม 3
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันตนมีการเปิดบริษัท รับส่งออก นำเข้า ผลิตเครื่องแต่งกายลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาต ชุดนักเรียน เป็นธุรกิจหลักของครอบครัว ส่วนการรับประมูลงานตัดชุดเครื่องแบบหน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่ตนได้มีการโพสต์เชิญชวนคนที่อยากหารายได้เสริมผ่านเพจเฟซบุ๊ก ตนเองรับว่าตนเองได้กระทำจริง
"ครั้งแรกตั้งใจจะให้ผลกำไรคืนแก่ผู้เสียหายตามที่ได้มีการประกาศไว้ แต่เนื่องจากตนไม่สามารถยื่นประมูลงานจากหน่วยงานราชการมาทำได้ ด้วยความโลภที่มีในตัว หากคืนต้นทุนให้แก่ผู้เสียหาย ก็เสียดายเงินทุนที่มีอยู่ในมือ จึงนำเงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนดังกล่าวคงค้างในบัญชีไว้ก่อน"
ต่อมาตนเองทนกิเลสความต้องการไม่ได้จึงนำเงินที่มีผู้เสียหายส่งมาร่วมลงทุนดังกล่าว นำไปซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อดังต่างๆ เช่น รถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E250, ยี่ห้อ BMW ซีรี่5 รุ่น 520 D, ยี่ห้อฟอร์ด มัสแตง GT5.0, จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ยี่ห้อ Triumph รุ่น Rocket 3 R มาใช้ในชีวิตประจำวัน
เมื่อถึงเวลากำหนดส่งเงินต้นพร้อมกำไรคืนให้แก่ผู้เสียหาย ก็ได้มีการโพสต์เชิญชวนประชาชนอื่นที่สนใจให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการประมูลงานใหม่ เพื่อนำเงินทุนไปจ่ายเป็นเงินต้นและกำไรให้แก่ผู้ที่ลงทุนในโครงการก่อนหน้า แต่เนื่องจากในบางครั้งโครงการประมูลที่เปิดใหม่ไม่มีผู้สนใจร่วมลงทุนมากพอ จึงไม่สามารถนำเงินไปส่งต้นและกำไรให้ผู้ร่วมลงทุนก่อหน้าได้ เป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดี ที่ผ่านมาเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงปี 2562
เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และปลอมเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง หรือเครื่องหมายร่วมของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้ว ในราชอาณาจักร"
ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป