23 ธันวาคม 2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมแถลงจับกุม น.ส.ณัฐปภัสร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เจ้าของโรงงานลักลอบผลิตชิ้นซิลิโคนศัลยกรรมเถื่อน ตรวจยึดของกลางเครื่องจักรพร้อมอุปกรณ์การผลิต และซิลิโคนศัลยกรรมเสริมความงามกว่า 1,166 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 3,500,000 บาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจกองกํากับการ 4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี และประชาชนว่า มีผู้ลักลอบผลิตชิ้นส่วนซิลิโคนเสริมจมูก และซิลิโคนเสริมหน้าผาก โดยใช้ที่พักคนงาน เป็นสถานที่ลักลอบผลิต จากการสืบสวนทราบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นโรงสีข้าว ปัจจุบันยกเลิกกิจการไปแล้ว
ต่อมาวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับ อย. และ สสจ.สุพรรณบุรี ร่วมกันนําหมายค้นของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้นโรงสีร้างในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.วังหว้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พบคนงานกําลังผลิต ซิลิโคน ศัลยกรรมสําหรับเสริมจมูกและหน้าผาก โดยใช้สถานที่ลักษณะคล้ายที่พักคนงานเป็นฐานการผลิต และตรวจ ยึดของกลางเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ส่วนควบในการผลิตซิลิโคนศัลยกรรม กว่า 16 รายการ ได้แก่
1.เครื่องจักรสําหรับผลิตซิลิโคนเสริมจมูก จํานวน 4 เครื่อง 2.เครื่องจักรสําหรับผลิตซิลิโคนเสริม หน้าผาก จํานวน 1 เครื่อง 3.แม่พิมพ์ซิลิโคนทรงต่าง ๆ จํานวน 68 แบบ 4.ซิลิโคนเสริมจมูกและ หน้าผากสําเร็จรูป จํานวน 1,098 ชิ้น 5.ซิลิโคนที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป จํานวน 43 ก้อน (หากนําไปขึ้นรูปผลิต ชิ้นซิลิโคนได้ประมาณ 43,000 ชิ้น) จากการตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตผลิตเครื่องมือแพทย์ แต่อย่างใด
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เคยทํางานคลินิกเสริมความงามมาก่อน จากนั้นลาออกแล้วมาเป็นเซลล์ขายซิลิโคนให้กับคลินิก ต่าง ๆ ต่อมาศึกษาการผลิตซิลิโคนด้วยตนเองจากข้อมูลโรงงานที่ทําซิลิโคนส่ง ประกอบกับตนเองมีฐานลูกค้าเก่าอยู่แล้วตอนเป็นเซลล์ จึงผลิตเอง ส่งลูกค้าเอง
ทําส่งลูกค้าประมาณ 5,000-10,000 ชิ้นต่อเดือน และมีเซลล์ช่วยขาย ประมาณ 3 คน ส่วนมากจะส่งเอง ตรวจสอบพบว่ามีการส่งให้คลินิกเสริมความงามชื่อดัง ซึ่งมีหลายสาขาทั่วประเทศ และคลินิกเสริมความงามชื่อดังทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดหลายสิบแห่ง โดยทํามาแล้ว ประมาณ 2 ปี
เบื้องต้นดําเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐาน "ผลิตเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต และผลิต เครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับใบรับแจ้งรายการละเอียด" นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า การผ่าตัดใส่ซิลิโคนที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานเข้าไปในร่างกายอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อและอาจส่งผลร้ายกับใบหน้าและร่างกายโดยตรง การผลิตจะต้องได้มาตรฐานและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด