"บิ๊กเด่น"สั่งชุด PCT กวาดล้างอาวุธเถื่อนหลังขายโจ๋งครึ่มโลกออกไลน์

15 ตุลาคม 2565 จากเหตุสะเทือนขวัญที่มีการใช้อาวุธปืนในการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้ง จนสร้างความหวาดกลัวต่อประชาชน ขณะที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์" ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เร่งระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนโดยเร่งด่วน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมานั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการระดมกวาดล้างมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ชุด ศปอส.ตร. (PCT) ชุดปฏิบัติการที่ 5 ขยายผลจากการจับกุมกลุ่ม "ผู้ซื้อ" กว่าหลายรายจากการซื้อ ขายอาวุธปืนในโซเชียล ยูทูป ในชื่อ "ช่างทำมือ"

โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สั่งการให้ "พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง" ผบช.น. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง. และ "พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์" ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT5) ทำการสืบสวนก่อนเข้าตรวจค้นจับกุม

ซึ่งเมื่อวันที่ 13-14 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ PCT5 สืบสวนนครบาล พร้อมด้วย สืบสวน ภ.2 และ สืบสวนจังหวัดระยอง เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย จำนวน 4 จุด ดังนี้

โดยจุดแรก ตั้งอยู่ ม.3 หมู่บ้าน กิตติชัยวิลล่า 7 ถ.มิตรไมตรี คู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยสามารถจับกุมตัว นาย ก. (นามสมมติ ) อายุ 17 ปี พร้อมลูกกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 4 นัด และซองปืนสีดำ 1 อัน อยู่ภายในห้องครัวที่บ้านพักหลังดังกล่าว พร้อมตั้งข้อหา "มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" 

ทั้งนี้ นาย ก. ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่า ลูกกระสุนปืนดังกล่าว เป็นผู้ครอบครอง โดยมีรุ่นพี่ให้มา และยอมรับว่าเคยมีอาวุธปืนดัดแปลง ชนิดลูกโม่ .38 ซื้อจากรุ่นพี่คนหนึ่ง ด้วยราคา 10,000 บาท แต่ขายไปให้กับรุ่นพี่อีกคน พร้อมกับปืนแบลงค์กัน อีก 1 กระบอก ในราคา 20,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัว นาย ก. พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.ลำหิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ส่วนจุดที่สอง เป็นการขยายผลต่อจากจุดแรก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นบ้านพักแห่งหนึ่งบน ถ.แบนชะโด แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และจับกุมตัว นายสมชาย นิลขำ อายุ 50 ปี เป็นชาว จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย 1.ซองกระสุนปืน (แม็กกาซีน) ขนาด 9 มม. สีเงิน จำนวน 1 อัน 2.เครื่องกระสุนปืน ลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด 3.ระเบิดปิงปอง(ทำเอง) พันด้วยเทปสีดำ จำนวน 2 ก้อน และ 4.ลูกประทัด (ลูกบอล) จำนวน 21 ลูก อยู่ภายในบ้านพัก

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา "มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยนายสมชาย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งของกลางลำดับที่ 1 และ 2 เป็นของตนจริง ส่วนของกลางลำดับที่ 3 และ  4 เป็นของคนรู้จัก จึงขยายผล และส่ง พฐ. ตรวจสอบจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จุดที่สาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าค้นพบพัก ม.7 ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง ก่อนจับกุมตัว นายสุทธิพันธ์ มั่นคง อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง คือ 1.อาวุธปืนแบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ทะเบียน กท3930667 จำนวน 1 กระบอก 2.ซองบรรจุกระสุนปืน 1 อัน 3.อาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อสมิทแอนด์เวสสัน ขนาด .38 ทะเบียน กท37902395 จำนวน 1 กระบอก 

4.อาวุธปืนดัดแปลงแบบกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 380 ยี่ห้อคิมเบ้อ เลขตัวปืน เค 47189 จำนวน 1กระบอก 5.ซองบรรจุกระสุน 1 อัน 6.อาวุธดัดแปลงแบบลูกโม่ ขนาด 32 ไม่มียี่ห้อ เลขตัวปืน 18004777 จำนวน 1 กระบอก 7.เครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 44 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 42 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด .32 จำนวน 11 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 42 นัด อยู่ในชั้นเก็บของในห้องพักดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน" ซึ่ง นายสุทธิพันธ์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นของตนจริงเพราะชอบสะสมปืน ดูจากโลกออน์ไลน์ สั่งซื้อจากยูทูป "ช่างทำมือ" จากนั้น ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แกลง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่จุดที่สี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายประเทศ ธนาภรณ์ อายุ 69 ปี ภายในบ้านพัก ม.9 ต.คลองปูน อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมของกลาง 1.อาวุธปืนยาวแบบประดิษฐ์เอง ไม่มียี่ห้อและหมายเลขทะเบียนปืน ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกล้องเล็งเป้า จำนวน 1 ชุด 2.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 26 นัด 
ภายในบริเวณข้างตู้โชว์ที่ตั้งอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา "มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดย นายประเทศ ให้การรับสารภาพเป็นของตนจริง จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ. ปากน้ำประแสร์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดย ผบ.ตร. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้ปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ยาเสพติดครบวงจร และต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และหากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสความผิดเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน เครื่องกระสุน หรือวัตถุระเบิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม. ซึ่งข้อมูลในการแจ้งจะปิดเป็นความลับ และจะมีเงินสินบนรางวัลให้กับผู้แจ้งในกรณีที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิด