ตม.ถอนวีซ่า 2 นักข่าว "CNN" พบผิดซ้ำแอบใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้าไทย

ภายหลังปรากฎภาพนักข่าวต่างประเทศ 2 คนเข้าไปถ่ายภาพและรายงานข่าว บรรยากาศด้านในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หนองบัวลำภู ต่อมาทางด้าน สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) ได้ออกแถลงการณ์ตำหนิการกระทำของทีมข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นในสหรัฐฯ กรณีเข้าไปในที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหนองบัวลำภู เพื่อรายงานเหตุกราดยิง ชี้เป็นการกระทำที่ไม่มืออาชีพและละเมิดจริยธรรมสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง

โดยภาพสกู๊ปข่าวดังกล่าว เป็นการลงพื้นที่ของผู้สื่อข่าว CNN และช่างภาพ เนื้อหาเป็นการสัมภาษณ์ครอบครัวและหน่วยกู้ภัย และเข้าไปด้านในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ โดยยังเห็นคราบเลือดที่ยังไม่ถูกล้างออก และสิ่งของเครื่องใช้ของเด็กผู้เสียชีวิตที่อยู่ด้านใน

ต่อมา ทางด้าน นายดนัยโชค บุญโสม นายกอบต.อุทัยสวรรค์ ได้เดินทางไปที่สภ.นากลาง เพื่อแจ้งความสื่อต่างชาติ ที่ปีนรั้วเข้าไปถ่ายภาพและนำเสนอข่าว และภาพที่ไม่เหมาะสม สะเทือนใจต่อญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ โดยทางด้าน พ.ต.อ.จักรพรรคิ วิจิตรไวทยะ ผกก.สภ.นากลางได้แจ้งข้อหา บุกรุกสถานที่ราชการ ส่วนเรื่องการทำลายหลักฐานหรือไม่นั้น จะต้องสอบปากคำและดูรายละเอียดอีกครั้ง ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น (อ่านข่าว) 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการเพิกถอนวีซ่านักข่าวต่างประเทศ 2 คน  ดังนี้

MS.ANNA MARGUERITE COREN เพศ หญิง อายุ 47 ปี สัญชาติออสเตรเลีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านช่องทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการ ยกเว้นการตรวจลงเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 6  ต.ค.65 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 19 พ.ย.65

MR.DANIEL JOHN HODGE เพศ ชาย อายุ 34  ปี สัญชาติ บริติช เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ผ่านช่องทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการ ยกเว้นการตรวจลงเพื่อการท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 6  ต.ค.65  ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 19  พ.ย.65 การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด

เมื่อวันที่ 8  ต.ค.65 ได้บุกรุกไปยังสถานที่เกิดเหตุในคดีอาญโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อเข้าไปนำเสนอข่าวต่อสาธารณะชน

กระทำการในฐานะของสื่อมวลชนต่างประเทศ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) โดยไม่ได้รับการตรวจลงตราประเภทสื่อมวลชนนั้นมีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม และวีซ่าดังกล่าวที่สื่อมวลชนทั้งสองขอเข้ามานั้น  มีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว แต่มีหลักฐานปรากฎว่าคนต่างด้าวรายดังกล่าวได้เข้ามาเพื่อทำหน้าที่สื่อมวลชน ของสำนักข่าวต่างประเทศ(CNN) และยังถือว่าเป็นการทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งมีพฤติการณ์การเข้าไปในสถานที่เกิด เหตุ ซึ่งเป็นบริเวณสถานที่เกิดเหตุในคดีฆาตกรรมนั้นเป็นการไม่มีเหตุอันสมควรเข้าไปในบริเวณดังกล่าวซึ่งเข้า ข่ายละเมิดกฎหมายอาญาในความผิดฐานบุกรุก ตาม มาตรา ๓๖๔ แห่ง ป.อาญา และอาจทำให้พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเกิดความเสียหายซึ่งถือว่าเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

ถือว่ามีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ถือว่าเป็นคนต่างด้าวซึ่งมีลักษณะต้องห้ามมิให้เข้ามาในจึงมีเหตุอันสมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร

โดยการเพิกถอนวีซ่าครั้งนี้ หากพบเห็นบุคคลทั้งสองที่ไหนสามารถดำเนินการจับกุมและผลักดันออกนอกประเทศได้ทันที

โดยล่าสุด ( 9 ต.ค.65) มีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมตัวบุคคลทั้งสองได้ที่พักแห่งหนึ่งภายใน จ.อุดรธานี อยู่ระหว่างนำตัวส่ง สภ.นากลางดำเนินคดี

รายงานข่าวระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการสอบถามรายละเอียดไปยัง สำนักข่าว CNN ประจำประเทศไทย เพื่อหาข้อมูลรายละเอียดในการลงพื้นที่ ทำข่าวของของบุคคลทั้งสองนั้น