svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับพ่อค้าจีน-สาวไทยลอบขายเครื่องสำอางปลอม มูลค่า 40 ล้านบาท

15 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ-อย.จับพ่อค้าจีนร่วมสาวไทย ลักลอบจำหน่ายเครื่องสำอางยี่ห้อดัง ปลอมเครื่องหมายการค้า ใช้วิธีเปิดบัญชีร้านค้าขายผ่านทางออนไลน์หลายบัญชีไม่ซ้ำ เลี่ยงการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ค้นสถานที่ซุกซ่อน 9 จุด ยึดของกลางได้กว่า 40 ล้านบาท พร้อมยึดทรัพย์

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งการ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ.,  สนธิกําลัง ร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดปฏิบัติการนําหมายค้นของศาล ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทลายแหล่งกักเก็บสินค้าประเภทเครื่องสําอางปลอมเครื่องหมายการค้า และไม่ผ่านการขออนุญาตจาก อย. รวม 9 จุด

จับพ่อค้าจีน-สาวไทยลอบขายเครื่องสำอางปลอม มูลค่า 40 ล้านบาท

ผลการปฏิบัติงาน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ประกอบด้วย  MR.WEIXIANG XIAO อายุ 40 ปี สัญชาติ จีน และนางสาวสมฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ในความผิดฐาน “มีไว้เพื่อจําหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม” พร้อมของกลาง สินค้าประเภทเครื่องสําอาง ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ยี่ห้อ ต่างๆ จํานวน 2,739 ชิ้น เครื่องสําอาง, อาหารเสริม, เครื่องมือแพทย์ และยา ที่ต้องสงสัยว่าไม่ผ่านการขออนุญาตจาก อย. รวม จํานวน 64,305 ชิ้น และสิ่งลามก (Sex Toy) จํานวน 1,349 ชิ้น

จับพ่อค้าจีน-สาวไทยลอบขายเครื่องสำอางปลอม มูลค่า 40 ล้านบาท

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ได้รับแจ้งจาก บริษัท เจ้านาง (ไทยแลนด์) จํากัด ว่ามีผู้ลักลอบจําหน่ายแป้งตลับทาหน้า ที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของ บริษัทผู้เสียหาย ผ่านแพลทฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ จึงได้ทําการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ลักลอบจําหน่าย สินค้าผิดกฎหมาย มีพฤติกรรมเปิดบัญชีร้านค้าในแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์จํานวนหลายบัญชีไม่ซ้ำกัน เพื่อ หลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่

จับพ่อค้าจีน-สาวไทยลอบขายเครื่องสำอางปลอม มูลค่า 40 ล้านบาท

จับพ่อค้าจีน-สาวไทยลอบขายเครื่องสำอางปลอม มูลค่า 40 ล้านบาท

ต่อมา ตํารวจได้รวบรวมพยานหลักฐานนําไปสู่การอนุมัติขอหมายค้น ก่อนเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าซุกซ่อนสิ่งของผิด กฎหมาย รวม 9 จุด สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นสามี-ภรรยากัน และตรวจยึดของกลางดังกล่าวมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท     นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึด รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นที่ต้องสงสัยว่าได้มา มีไว้ หรือได้ใช้ในการกระทําความผิดที่เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากความผิดดังกล่าวถือเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ฟอกเงินอีกด้วย ก่อนนําส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

logoline