หลานอดีต รมต.พูลวิลล่าโดนอีก 2 ข้อหา “หมิ่นประมาท - พรบ.คอมพ์”

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 เวลา 16.00 น. ที่ สน.โชคชัย นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พา น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ดารานักแสดง ที่ถูกนายอภิดิศร์ อินทุลักษณ์ หรือ เอ็ม ล่วงละเมิดทางเพศที่พูลวิลลา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมาที่ สน.โชคชัย เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับนายอภิดิศร์ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องเข้าถึงระบบโดยมิชอบ และเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลในโทรศัพท์ และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

นายษิทรา กล่าวว่า หลังเดินทางไปร้องทุกข์ที่กองปราบฯ ได้มีการตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่าแชทที่มีการคุยกับผู้ต้องหา ถูกลบออกไปตอนน้องหมดสติ จึงเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติม โดยแชทข้อความที่ถูกลบมีการพิมพ์ตอบโต้กับผู้ต้องหาเรื่องงาน ก่อนเกิดเหตุถูกลบออกไปหมด ที่ผู้ต้องหาลบข้อความไปในระหว่างที่น้องหลับ โดยโทรศัพท์สามารถสแกนใบหน้าของน้องได้ขณะหลับตา

นายษิทรา กล่าวว่า ผู้ต้องหา เข้าพบพนักงานสอบสวนและให้สัมภาษณ์สื่อ ในทำนองว่าน้องผู้เสียหายทำการแบล็คเมล์ จึงขอแจ้งความเพิ่มเติม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา วันเกิดเหตุน้องทะเลาะกับพี่สาว จึงแชทถามว่า มีที่พักแนะนำไหม เป็นการที่เขาไปนอนคนเดียว ไม่ได้ชวนผู้ต้องหาไปนอนด้วย แต่แชทดังกล่าวหายไปหมดเลย ถ้าหากผู้ต้องหาจะแสดงแชท ก็ขอให้เอาออกมาให้หมดเลย ภายหลังแชทได้หายไป น้องผู้เสียหายได้ติดต่อขอข้อความจากที่คุยปรึกษากับทางผู้จัดการคนหนึ่ง ในวงการบันเทิงเพื่อนำมาเก็บไว้เป็นหลักฐาน เกี่ยวกับขอคำแนะนำในการเลี่ยงไม่รับงานกับผู้ต้องหารายนี้ สำหรับการดำเนินคดีแจ้งความในพื้นที่สนโชคชัยนั้น ก่อนหน้านี้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 8 ข้อหา และวันนี้แจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

น.ส.แนน เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากความไว้ใจ โดยก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางเพศเลย ทำให้เกิดความไว้ใจ ที่ผ่านมาเคยไปคุยงานในวงการก็จะมีพี่สาวไปคุยด้วย แต่ครั้งนี้ไปเพียงลำพังคนเดียว ด้วยความไว้ใจ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอมรับว่าดื่ม แต่ดื่มไม่มาก หลังจากวันนั้นเดินออกมาจากโรงแรมก็ไม่รู้สึกตัวอะไรจนกระทั่งมีการแชทคุยเพื่อหลอกถามว่ามีการล่วงเกินทางเพศหรือไม่

จากนั้น นายษิทราและน.ส.แนนได้เข้าพบ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รองผบก.น.4 และ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย ร่วมสอบสวน โดยการมาแจ้งความครั้งนี้เจ้าหน้าที่แยกรับเรื่องของฝ่ายผู้เสียหาย ออกจากห้องการสอบสวนตัวผู้ต้องหา เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่าย โดยขณะที่ผู้ต้องหายังคงสอบสวนกว่า 6 ชั่วโมงแล้วยังไม่แล้วเสร็จ