สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี รายงานว่า มีฝนตกสะสมวัดได้ 525 มิลลิเมตรในกรุงโซลตั้งแต่วันจันทร์ถึงเช้าวันพุธ และคาดว่า จะยังมีฝนตกวัดได้ 100-300 มิลลิเมตรในกรุงโซลจนถึงวันศุกร์ และอีก 350 มิลลิเมตรในจังหวัดคยองกีจนถึงวันพฤหัสบดี
รัฐบาล เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมฉับพลันแล้ว 9 ราย ผู้สูญหายอีก 7 คน และผู้บาดเจ็บอีก 17 คน อาคารและบ้านเรือน 2,676 หลังถูกน้ำท่วม ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล และประชาชนเกือบ 570 คนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซลต้องอพยพไปอยู่ตามโรงเรียนและโรงยิม และอีก 1,253 คนจากทั่วประเทศต้องอพยพออกจากพื้นที่ชั่วคราว
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล กล่าวระหว่างประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยขอ โทษต่อประชาชนทั่วประเทศสำหรับความไม่สะดวกสบายและความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากฝนตกหนัก
เขากล่าวในการประชุมอีกรอบของรัฐบาลก่อนหน้าในวันเดียวกัน โดยกำชับให้ดูแลและปกป้องกลุ่มผู้เปราะบางจากความเสียหายหลังฝนตกหนักทำลายสถิติ
เขากล่าวถึงภัยพิบัติครั้งนี้ที่เป็นฝนตกหนักที่สุดในรอบ 115 ปีว่า “มันเป็นความจริงที่ชัดเจนว่าเป็นสภาพอากาศผิดปกติ แต่เราไม่อาจเรียกว่าเป็นสภาพอากาศผิดปกติอีกต่อไป” และ “เราอาจเห็นสถิติใหม่ได้ทุกเมื่อ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าเราไม่อาจรับมือด้วยข้อมูลจากอดีต เราต้องเตรียมรับมือด้วยการตระหนักอยู่เสมอถึงสถานการณ์เลวร้ายเกินคาดคิด”
นอกจากนี้ทำเนียบประธานาธิบดีออกมาแจกแจงรายละเอียดการทำงานของประธานาธิบดียุนในช่วงที่ประเทศเผชิญภัยพิบัติ หลังมีเสียงวิจารณ์จากฝ่ายค้านกรณีประธานาธิบดีทำงานจากบ้านพักทางตอนใต้ของกรุงโซล แทนที่จะเข้าประชุมที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยเชื่อมโยงว่า เป็นผลมาจากการที่เขาย้ายทำเนียบประธานาธิบดีจากกวางวามุนไปที่ยองซาน เขาถูกระบุว่าออกจากทำเนียบในเย็นวันจันทร์ทั้งที่คาดว่าจะมีฝนตกเพื่อกลับไปที่บ้านพัก แทนที่จะทำงานต่อที่ทำเนียบ
ทำเนียบระบุว่า ประธานาธิบดียุนร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องผ่านทางโทรศัพท์เพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์และสั่งการเพื่อบรรเทาภัยพิบัติตั้งแต่ 21.00 น. วันจันทร์ถึง 3.00 น. วันอังคารตามเวลาท้องถิ่น และประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีอีกที่ทำเนียบรัฐบาลในกรุงโซลในเวลา 6.00 น. วันอังคาร