svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

เปิดตำนาน"บ้านพิษณุโลก" เมื่อนายกฯ "เศรษฐา ทวีสิน"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

10 กันยายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

นับเป็นครั้งแรก สำหรับ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย เปิด"บ้านพิษณุโลก" หารือข้อราชการกับทีมนายตำรวจและเลขาธิการนายกฯ "พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" ท่ามกลางตำนาน "บ้านพักนายกฯ" ที่แทบจะไม่มีใครเข้าพัก (ชมคลิป)

10 กันยายน 2566 ถือว่าเป็นครั้งแรกในรัฐบาลชุดปัจจุบัน เมื่อประตู" บ้านพิษณุโลก"  ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ต้อนรับ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีคนที่ 30  ด้วยการเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหารือเป็นการส่วนตัว 

เป็นการหารือภายหลัง "นายกฯเศรษฐา" เพิ่งเสร็จสิ้นการลงพื้นที่ จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย ระหว่างวันที่  8 - 9 กันยายนที่ผ่านมาและในเวลา 12.30 น. นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยัง"บ้านพิษณุโลก" พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านพิษณุโลก และสักการะรูปปั้นนารายณ์บรรทมสินทธุ์ และเดินชมบริเวณโดยรอบ ก่อนเป็นประธานการประชุม เพื่อรายงานปัญหายาเสพติด

เปิดตำนาน\"บ้านพิษณุโลก\" เมื่อนายกฯ \"เศรษฐา ทวีสิน\"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม อาทิ "นายวิชัย ไชยมงคล " เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.,"พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์  หักพาล" รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ รอง ผบ.ตร.และ"นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช"  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นต้น

ความน่าสนใจเรื่องนี้ ที่นอกเหนือจากการเรียกบุคคลระดับเลขาธิการ ป.ป.ส.  เลขาธิการนายกฯ  รวมถึง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รองผบ.ตร. หารือ ท่ามกลางกระแสข่าวฝ่ายการเมือง เตรียมขอยืมตัว "บิ๊กโจ๊ก" มาทำหน้าที่กวาดล้างยาเสพติด ขบวนการอิทธิพลมาเฟีย หรือรวมถึงการทลาย ทุนจีนสีเทา หากแต่ ยังอยู่ที่ สถานที่หารือ คือ "บ้านพิษณุโลก" ที่ได้เปิดใช้ครั้งแรกสำหรับ"รัฐบาลเศรษฐา"   

เปิดตำนาน\"บ้านพิษณุโลก\" เมื่อนายกฯ \"เศรษฐา ทวีสิน\"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

"หลังจากนี้ อาจจะใช้บ้านพิษณุโลก เป็นสถานที่สำหรับประชุมหารือต่าง ๆ และจัดเลี้ยงบ้าง แต่จะไม่มีการพักค้างคืน" 

หมายเหตุ "เศรษฐา  ทวีสิน" นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังการใช้"บ้านพิษณุโลก"หารือข้อราชการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566  

 

ทั้งนี้ ในอดีต"บ้านพิษณุโลก" หรือ "บ้านบรรทมสินธุ์" เดิมเป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมนันทน์ อดีตนายกรัฐมนตรี และมีเรือนรับรองแขกสำคัญของรัฐบาลไทย มีเนื้อที่ 25 ไร่ 3 งาน ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล

เคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการประชุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล"พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ" อดีตนายกรัฐมนตรี ในนาม "ทีมบ้านพิษณุโลก" ซึ่งเป็นจุดกำเนิดนโยบาย "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า" ในการวางแผนนโยบายทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ 

อาคารภายในบ้านพิษณุโลก มีตึกนารายณ์บรรทมสินธุ์ เป็นตึกประธาน และมีอาคารบริวาร เช่น ตึกเย้าใจ เรือนคู่ใจ เรือนณรงค์ เรือนกลัมพากร และโรงรถเดิม เรียงรายกันไป โดยมีการจัดสวนและสระน้ำขนาดใหญ่แบบธรรมชาติ โดยมีสวนป่า “เขาดิน” ภูเขาจำลองขนาดย่อม มีน้ำตกเล็กๆ ไหลริน บนยอดดอยมีศาลเทพารักษ์ “ศาลท้าวหิริญฮู” หรือ "ท้าวหิรัญพนาสูร" สำหรับเคารพบูชา

เปิดตำนาน\"บ้านพิษณุโลก\" เมื่อนายกฯ \"เศรษฐา ทวีสิน\"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

รัฐบาลในอดีต นอกจากรัฐบาลพลเอกชาติชาย ที่เคยใช้บ้านพิษณุโลกเป็นสถานที่ สำหรับการประชุมหารือด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังมีรัฐบาลบางชุด ที่มาใช้"บ้านพิษณุโลก"เป็นสถานที่การประชุม และรับรองแขกของรัฐบาล เช่น รัฐบาลนายชวน หลีกภัย ที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับการประชุมแกนนำรัฐบาลในบางครั้ง และในสมัยที่นายชวน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ 2 ได้ ใช้เป็นสถานที่พักค้างคืนเพียงระยะเวลาสั้น ๆ ในสมัยรัฐบาล"นายทักษิณ" และ"นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ได้ใช้รับรองแขกของรัฐบาล เมื่อเข้าสู่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ค่อยมีการใช้งานเช่นเดียวกัน เนื่องจากอยู่ระหว่างการบูรณะซ่อมแซม

เปิดตำนาน\"บ้านพิษณุโลก\" เมื่อนายกฯ \"เศรษฐา ทวีสิน\"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

ย้อนตำนาน"บ้านพิษณุโลก"

บ้านหลังนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกสร้างด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในปี 2465 บนที่ดินประมาณ 50 ไร่ในอำเภอดุสิต จ.พระนคร ที่มี มาริโอ ตามานโญ สถาปนิกชาวอิตาลี เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเมื่อสร้างเสร็จทรงพระราชทานให้กับพระยาอนิรุทธเทวา อธิบดีกรมมหาดเล็ก และผู้บัญชาการกรมมหรสพ ซึ่งเป็นมหาดเล็กส่วนพระองค์

ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ตระกูลอนิรุทธเทวา ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ พระยาอนิรุทธเทวาจึงได้ทูลเกล้าฯ ถวายบ้านบรรทมสินธุ์เพื่อให้เป็นราชสมบัติ เนื่องจากเกินกำลังที่จะบำรุงรักษาได้ แต่ได้รับการปฏิเสธ พระยาอนิรุทธเทวาและครอบครัวได้ย้ายออกไปอยู่จ.นนทบุรี

ต่อมาระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง คณะรัฐบาลของ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" ได้ใช้บ้านบ้านบรรทมสินธุ์ เป็นที่รับรองนายพลฮิเดกิ โทโจ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในการร่วมรบกับญี่ปุ่น และได้ติดต่อพระยาอนิรุทธเทวา เพื่อขอซื้อหรือเช่าบ้านหลังนี้ เพื่อไม่ให้ญี่ปุ่นซื้อไปเป็นสถานทูต เนื่องจากบ้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับกองพันทหารราบที่ 3 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

โดย"พระยาอนิรุทธเทวา" ได้ตกลงแบ่งขายที่ดินและตึกจำนวน 25 ไร่ ในราคา 5 แสนบาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2485 รัฐบาลได้ใช้บ้านบรรทมสินธุ์เป็นที่ทำการของ "กรมประสานงานไทย-ญี่ปุ่น" สำหรับการประสานงานระหว่างสองประเทศและเปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านไทย-พันธมิตร"

เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม "บ้านไทย-พันธมิตร" ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านสันติภาพ" เพื่อลบภาพพจน์ในการเข้าร่วมสงคราม และต่อมาในปี 2496 จอมพล ป. พิบูลสงครามได้เปลี่ยนชื่อเป็น "บ้านพิษณุโลก" เพราะบ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลก

รัฐบาลยุคต่อมาได้ปรับปรุงบ้านพิษณุโลก เพื่อใช้เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาตั้งแต่สมัย "พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์" ในปี 2522 แล้วเสร็จในรัฐบาล "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" ในปี 2524 โดยพล.อ.เปรม ได้ย้ายเข้าไปพัก เพียง 2 วัน แต่บาง กระเเส ก็ว่าอยู่ได้ 7 วัน แล้วย้ายออกไปพักที่บ้านพักเดิม คือ บ้านสี่เสาเทเวศร์

ในยุค "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ" เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการใช้บ้านหลังนี้ เป็นที่ทำการของคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยเรียกกันติดปากสื่อมวลชนว่า "ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก" แต่ไม่ได้มีการใช้เป็นที่พัก

สมัยของ "นายอานันท์  ปันยารชุน" ก็แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าจะไม่เข้าไปอยู่ ส่วนยุค "นายบรรหาร  ศิลปอาชา" ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร จนมาถึง "พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ" มีรายงานว่าใช้งบประมาณกว่า 8 ล้านบาท ในการบูรณะซ่อมแซม และยังใช้เป็นสถานที่ประชุมลับ เพื่อเปลี่ยนแปลงค่าเงินบาทด้วย

จากนั้นยุค"นายชวน หลีกภัย" ดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่เข้าพักบ้านพิษณุโลกหลังนี้ และอยู่ได้นานทั้ง 2 สมัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พอเข้าสู่ยุค"นายทักษิณ  ชินวัตร" เข้าเป็นนายกฯ บ้านหลังนี้ถูกใช้รับรองแขกต่างชาติ และมีการแวะเวียนของบุคคลกลุ่มต่างๆ เข้ามาหา

ต่อมายุคของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) บ้านหลังนี้ก็ไม่ค่อยถูกใช้งาน เพราะมีการประชุมในค่ายทหารแทน ส่วน"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ไม่ค่อยมีเวลาใช้ เนื่องจากปัญหาม็อบรุมเร้า ขณะที่ "น.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร" อดีตนายกฯ ใช้เป็นเพียงที่รับรองแขกจากต่างประเทศ สุดท้ายมาถึงคิวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ค่อยได้ใช้ เนื่องจากกำลังซ่อมแซมอยู่

สภาพห้องประชุม ภายใน บ้านพิษณุโลก  ซึ่งถือเป็นบ้านพักนายกรัฐมนตรี แต่แทบไม่มีนายกฯคนใดเข้าพัก แม้เข้าพักก็พักในเวลาไม่กี่วัน

บ้านพิษณุโลกและเรื่องร่ำลือ

ส่วนเรื่องร่ำลือถึงความอาถรรพ์ของ"บ้านพิษณุโลก" จนเป็นเหตุให้ "พล.อ.เปรม" พักได้เพียง 2 วันก็ย้ายออกไปนั้น แต่เมื่อสื่อมวลชนไปสัมภาษณ์ "พล.อ.เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา" ซึ่งเป็นทายาทของพระยาอนิรุทธเทวา ที่เคยพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เมื่อสมัยเด็ก ก็ได้รับการยืนยันว่า ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องอาถรรพ์แต่อย่างใด เพราะตนอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กจนหนุ่ม จนกระทั่งรัฐบาล"จอมพล ป. พิบูลสงคราม" ซื้อบ้านหลังนี้ไป

เปิดตำนาน\"บ้านพิษณุโลก\" เมื่อนายกฯ \"เศรษฐา ทวีสิน\"ใช้หารือแต่ไม่ค้างคืน

ทั้งนี้ แต่กิตติศัพท์เรื่องความอาถรรพ์นี้ ก็ได้รับการตอกย้ำ จนไม่มีนายกฯ คนใดย้ายเข้าไปพักอย่างเป็นทางการ แม้แต่ "พล.อ.ชาติชาย" ที่ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่รับแขกเท่านั้น มีเพียง"นายชวน" ที่มาอยู่ เพราะบ้านพักในซอยหมอเหล็งค่อนข้างเล็กและคับแคบ โดยใช้โซฟาในห้องทำงาน ซึ่งอยู่ด้านหน้าห้องนอนเป็นที่นอน ไม่ได้มีการใช้เตียงนอนภายในห้องนอนของบ้านแต่อย่างใด เพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าของบ้าน

นอกจากนี้ "บ้านพิษณุโลก"ยังเคยใช้เป็นฉากของภาพยนตร์ "บ้านทรายทอง" ที่กำกับการแสดงโดย รุจน์ รณภพ ดาราแสดงนำ คือ พอเจตน์ แก่นเพชร เป็นชายกลาง และ จารุณี สุขสวัสดิ์ เป็น พจมาน สว่างวงศ์ ถือเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ในยุคสมัยนั้น ทำให้บ้านพิษณุโลกเป็นที่รู้จักต่อสาธารณะมากกว่าเดิม

ชมคลิป >>>

ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์"บ้านพิษณุโลก"  (คลิป 1 )

ชมบรรยากาศโดยรอบ"บ้านพิษณุโลก" 

logoline