เจ้าคณะอำเภอ เผย วัดป่าธรรมคีรี ไม่มีระบบรายรับ-รายจ่าย รับเงินมาซุกตามกุฏิ

กรณีอดีต "พระอาจารย์คม" หรือ นายคม คงแก้ว อายุ 39 ปี พระนักเทศน์ชื่อดัง ถูกจับกุมในข้อหา ยักยอกเงินบริจาควัดป่าธรรมคีรี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่านับร้อยล้านบาท และมีการซุกซ่อนทรัพย์สิน อีกจำนวนมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ศิษย์วัดป่าบ้านตาด คอนเฟิร์ม "อดีตพระอาจารย์คม" ไม่ใช่ศิษย์ "หลวงตามหาบัว"
• เปิดคลิป วินาทีขุดค้นทองที่ "อดีตพระอาจารย์คม" ฝังไว้ในวัดกว่า 99 ล้านบาท
• คุมตัว อดีตพระอาจารย์คม พร้อมพวก ฝากขังศาล คดียักยอกเงินวัด 180 ล้าน

9 พฤษภาคม 2566 พระญาณดิลก (เจ้าคุณแดง) เจ้าอาวาสวัดมกุฏคีรีวัน เขาใหญ่ เจ้าคณะอำเภอ (ธรรมยุต) ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบและสำรวจทรัพย์สิน ของวัดป่าธรรมคีรี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยสั้น ๆ ว่า

ที่มีการพบเงิน หรือ ทองคำแท่ง ก็ถูกต้องทั้งหมดตามที่ปรากฎในข่าว ตอนนี้ได้ให้ พระราชวชิราลังการ วิ. (คำปอน สุทฺธิญาโณ) เจ้าอาวาสวัดวชิราลงกรณวราราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี

ในส่วนของการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัด เดิมไม่มีระบบทำไว้เลย ไวยาวัจกรก็ไม่มี รับเงินมาแล้วเอาไปซุกไว้ตามกุฏิ ไม่ได้เอาเข้าระบบของวัดแต่อย่างใด มีบัญชีรายรับ-รายจ่ายจริง แต่เป็นส่วนน้อย จึงทำให้ไม่สามารถที่จะตรวจเช็กได้ ว่า มีเงินเข้าออกเท่าไหร่ หรือมีญาติโยมบริจาคอะไรบ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการของวัด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินทั้งหมดว่ามีอะไรบ้าง รวมไปถึงเงินที่มีการยักยอกทั้งหมดกลับเข้าคืนให้วัด

เมื่อถามว่าจะต้องมีสังคายนาวัดทั้งหมดหรือไม่ เจ้าคณะอำเภอ (ธรรมยุต) กล่าวว่า อาตมาเชื่อว่าพระที่ทำความผิด จะไม่มีการแจ้งรายได้เข้าวัดอย่างแน่นอน เพราะถือว่ามันเป็นปลายเหตุ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดบุคคลไว้ที่เกี่ยวกับวัด หากใครร่วมกันกระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด

อาตมาก็รู้จักเสียใจที่ทำให้วงการสงฆ์เสื่อมเสีย และทำให้ญาติโยมรู้สึกผิดหวัง กับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนเรื่องของการดำเนินคดี ก็ปล่อยให้เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ ร่วมกับคณะสงค์ดำเนินการต่อไป