พบศพสาวใหญ่ หมกศพห้องเก็บของใต้ถุนบ้าน ญาติสงสัยหนุ่มที่มาติดพัน

10 กุมภาพันธ์ 2566 พ.ต.ท.วินัย ลายละเอียด สว.สอบสวน สภ.ทับสะแก  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์​ รับแจ้งพบศพคนถูกฆ่าตาย​ ที่บ้านในพื้นที่ต.อ่างทอง​ อ. ทับสะแก​ เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น​ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม​ด้วย พร้อมชุดสืบสวน​ สภ.ทับสะแก​ พิสูจน์หลักฐาน​ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์​ แพทย์เวร​ รพ.ทับสะแก​ และมูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถานอำเภอทับสะแก​ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว​ ยกพื้นสูงปลูกอยู่ในสวนมะพร้าว และข้างๆบ้านปลูกต้นไม้ล้อมรอบ บริเวณด้านหลังบ้านพบชาวบ้านยืนมุงดูจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อ​ น.ส.บุญเรือน​ โค้วปรีชา​ อายุ​ 49 ปี​ เป็นเจ้าของบ้านหลังที่เกิดเหตุ​ 

เบื้องต้นพบศพถูกยัดอยู่ในห้องเก็บของใต้ถุนบ้านด้านหลังบ้าน ผู้ตายอยู่ในชุดทำงานเท้ายังสวมรองเท้าบูธ ที่มือสวมถุงมือ มีประตูไม้ปิด ใกล้ๆมีถังน้ำอยู่หลายถัง​ บนตัวผู้ตายพบจอบ ซึ่งน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายผู้ตายวางอยู่บนศพ​ ที่นอนตะแคงคว่ำหน้า​ เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐาน โดยเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้ตรวจสอบ​

จากนั้นนำศพผู้ตายออกจากในช่องเก็บของ​ เพื่อให้แพทย์เวรตรวจสอบ​ พบว่าที่บริเวณกกหูซ้ายถูกของแข็งฟาด จนกะโหลกศีรษะแตกและคอด้านหลังถูกฟาดจนยุบใบหน้าเละไม่มีเค้าโครงร่างเดิม บริเวณแก้มซ้ายเป็นแผลกรามหัก จากนั้นจึงนำตัวผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ที่นิติเวชฯ พร้อมนำอุปกรณ์ที่คาดว่าคนร้ายใช้ลงฆ่าไปตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง​ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ​ 12-24​ ชม.

จากการสอบถาม​ นายขวัญชัย​ โค้วปรีชา​ พี่ชายผู้ตายกล่าวว่า​ ผู้ตายเป็นน้องสาวคนสุดท้องของตนในจำนวนพี่น้อง​ 9​ คน​ ปกติบ้านหลังดังกล่าวผู้ตายจะอยู่บ้านคนเดียว​ แต่ช่วงหลังมาพบว่ามีชายมาติดพัน ขณะที่น้องสาวจะทำสวน​ เลี้ยงวัวประมาณ​ 10  ตัว​ อยู่บ้าน​ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปมีกระเป๋าสตางค์​ โทรศัพท์ของผู้ตายหายไปไม่สามารถติดต่อได้​

นายขวัญชัย ระบุว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้โทรศัพท์หาน้องแต่ไม่สามารถติดต่อได้​และไม่ได้นำวัวออกไปกินหญ้า จนมาช่วงบ่ายตนและญาติออกตามหาข้างบ้าน​ กระทั่งมาพบถูกฆ่าตายอย่างโหดหี้ยม เอาศพมายัดในห้องเก็บของ​ ใต้ถุนบ้าน​ ซึ่งปกติบ้านหลังดังกล่าวจะไม่มีใครเข้าออก​

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ​ ตรวจสอบกล้องวงจรปิด​ เพื่อสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป