svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

08 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ NARIT ชวนคนรักดวงดาวเฝ้าชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ระหว่างวันที่ 4-20 ธ.ค.ของทุกปี เป็นช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” หรือ "ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่"

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

สำหรับปี 2565 นี้ นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่า จะมีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง ในคืนดังกล่าวนี้ "กลุ่มดาวคนคู่" จะปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเวลาประมาณ 20:00 น. สามารถสังเกตได้จนถึงเวลาประมาณ 23:00 น. หลังช่วงเวลาดังกล่าวยังคงสามารถชมฝนดาวตกได้ แต่จะมีแสงจันทร์ข้างแรม 6 ค่ำรบกวน จึงไม่เหมาะกับการชมฝนดาวตก


ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากโลกเคลื่อนที่ตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่หลงเหลือทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า Fireball

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

สำหรับผู้สนใจชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก ควรเลือกสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน สังเกตได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ แนะนำให้นอนชม เนื่องจากฝนดาวตกกระจายทั่วท้องฟ้า สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์มีจุดเด่นคือ ความเร็วของดาวตกไม่มากนัก ประกอบกับมีอัตราตกค่อนข้างมากจึงสังเกตได้ง่าย สามารถมองเห็นได้รอบทิศ ถือเป็นโอกาสดีในการติดตามชมฝนดาวตก 


ขณะเดียวกันช่วงวันที่ 14 ธ.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์จะมีลมหนาวระลอกใหม่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิลดลงในหลายพื้นที่ คาดว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นอุปสรรคในการรับฝนดาวตก

ทำความรู้จัก "ฝนดาวตกเจมินิดส์"

“ฝนดาวตก” เป็นปรากฏการณ์แตกต่างจาก “ดาวตก” ทั่ว ๆ ไป คือเป็นดาวตกที่มีทิศทางเหมือนมาจากจุด ๆ หนึ่งบนท้องฟ้า เรียกว่า “จุดศูนย์กลางการกระจาย” (Radiant) เมื่อจุดศูนย์กลางการกระจายตรงหรืออยู่ใกล้เคียงกับกลุ่มดาวใด ก็จะเรียกชื่อฝนดาวตกตามกลุ่มดาวนั้น ๆ เช่น ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต เป็นต้น

สำหรับ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” (Geminids) หรือ “ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่” เป็นฝนดาวตกชุดที่มีต้นกำเนิดจากดาวเคราะห์น้อยเฟทอน (3200 Phaethon) เป็นดาวเคราะห์น้อยที่มีวงโคจรรูปร่างรีจนคล้ายวงโคจรดาวหาง ฝนดาวตกชุดนี้เป็นหนึ่งในฝนดาวตกไม่กี่ชุดที่มีต้นกำเนิดมาจากดาวเคราะห์น้อย ต่างจากฝนดาวตกส่วนใหญ่ที่มีต้นกำเนิดเป็นดาวหาง

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

 

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากการที่โลกเคลื่อนที่เข้าตัดกับสายธารของเศษหิน และเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ที่ดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ทิ้งไว้ในขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า (Fireball)

ฝนดาวตกเจมินิดส์ ถูกกล่าวถึงในบันทึกทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1862 ด้วยอัตราดาวตกประมาณ 10 - 20 ดวง/ชั่วโมงก่อนที่จะมากขึ้นในปัจจุบัน ฝนดาวตกเจมินิดส์จึงถือว่าเป็นฝนดาวตกน้องใหม่เมื่อเทียบกับฝนดาวตกชุดอื่น อย่างฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์และฝนดาวตกลีโอนิดส์ ที่มีบันทึกถึงการปรากฏของฝนดาวตกเหล่านี้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 36 และ ค.ศ. 902 ตามลำดับ

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เป็นหนึ่งในฝนดาวตกชุดที่น่าดูที่สุด เนื่องจากมีอัตราเร็วค่อนข้างช้า (หากเทียบกับฝนดาวตกชุดอื่น) โดยมีอัตราเร็วประมาณ 35 กิโลเมตร/วินาที อีกทั้งยังสังเกตได้ง่าย แถมยังมีอัตราดาวตกที่ค่อนข้างสม่ำเสมอในแต่ละปี


ข้อแนะนำในการดูฝนดาวตก

ช่วงเวลาที่เหมาะในการสังเกตการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์จะเริ่มประมาณตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป โดยในช่วงหลังเที่ยงคืนดาวตกจะมีอัตราการตกมากที่สุด เนื่องจากเวลาหัวค่ำจนถึงก่อนเที่ยงคืนเป็นช่วงที่ดาวตกวิ่งสวนทางการหมุนรอบตัวเองของโลก เราจะเห็นดาวตกมีความเร็วสูง ทำให้สังเกตได้ยาก แต่หลังเที่ยงคืนไปจนถึงเวลาใกล้รุ่งจะเป็นช่วงที่ดาวตกวิ่งตามทิศทางการหมุนของโลก เราจึงเห็นดาวตกวิ่งในอัตราเร็วที่ช้ากว่าจนมีเวลาที่สามารถชี้ชวนกันดูได้ และมองเห็นความสวยงามของดาวตกได้ชัดเจนขึ้น

ขณะที่อุปกรณ์ที่ควรเตรียมเพื่อนอนดูฝนดาวตกประกอบด้วยเก้าอี้เอน เสื่อ เสื้อกันหนาว หรือผ้าห่ม และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ให้ความอบอุ่น เนื่องจากช่วงนี้เมืองไทยเป็นฤดูหนาว และสถานที่ชมฝนดาวตกเป็นที่โล่งอาจมีลมแรงในหลายพื้นที่

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

การชมฝนดาวตกนั้น หากอยากมองเห็นท้องฟ้าแบบเต็มตาให้นอนรอชม โดยหันเท้าไปทางทิศใต้แล้วพยายามมองท้องฟ้าเป็นมุมกว้าง ไม่ควรมองเพ่งไปที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งบนท้องฟ้า เพราะดาวตกจะปรากฏกระจัดกระจายบนท้องฟ้า

เมื่อเริ่มนอนชมท้องฟ้าในความมืดประมาณ 30 นาทีแล้ว ดวงตาของเราจะปรับให้เข้ากับความมืด จากนั้นก็อดใจรอจนกว่าจะเริ่มเห็นดาวตก ย้ำว่าควรมองท้องฟ้าเป็นมุมกว้างเข้าไว้ ดาวตกบางลูกอาจปรากฏกลางมุมมองของคุณ หรือส่วนหนึ่งอาจปรากฏบริเวณใกล้ขอบมุมมองสายตา

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

ปักหมุด 10 จุดไฮไลท์ชวนชมฝนดาวตก

สถานที่ชมฝนดาวตก ควรเป็นสถานที่โล่งแจ้งที่มองเห็นท้องฟ้ามืดมิด (ดีที่สุด) หรือที่ที่มีแสงไฟรบกวนน้อย ดังนั้นจึงควรเป็นในป่า บนเขา บนดอยที่โล่งแจ้ง หรือที่มืดมิดห่างไกลจากเมืองหรือแสงไฟตามถนน ซึ่งเราสามารถดูฝนดาวตกได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ แนะนำให้นอนชม เนื่องจากฝนดาวตกกระจายทั่วท้องฟ้า

10 จุดชมฝนดาวตกแนะนำ ซึ่งเป็นลานกางเต็นท์ในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ที่เดินทางเข้าถึงไม่ยาก แต่ว่ามีบรรยากาศดี มีวิวทิวทัศน์สวยงามและสิ่งน่าสนใจหลากหลาย ซึ่งในยามปกติก็เป็นสถานที่กางเต็นท์ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวกันอยู่แล้ว
 

 

1.ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จ.น่าน : สามารถชมดาวได้แบบเสมอดาว ตื่นเช้ามามีทะเลหมอกให้ชมอย่างสวยงาม เพียงแค่เดินจากจุดกางเต็นท์ไม่กี่สิบเมตร

2.แก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี : ลานกางเต็นท์ใกล้กรุงฯ ในบรรยากาศแคมป์ปิ้งนอนดูดาว ริมอ่างเก็บน้ำอันสุดแสนโรแมนติก (ปีนี้ อช.แก่งกระจานปิดเส้นทางขึ้นไปดูทะเลหมอกที่เขาพะเนินทุ่ง)

3.ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร : ลานกางเต็นท์ดูดาวในบรรยากาศสุดฟิน เพราะเป็นเป็นช่องเขาที่มีลมพัดผ่านตลอดทั้งปี ที่นอกจากจะมีวิสพระอาทิตย์ตกสวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในแหล่งดูนกชั้นเยี่ยมของเมืองไทยอีกด้วย

4.ลานนับดาว อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ : ที่นอกจากจะมีลานกว้างให้กางเต็นท์ดูดาวแล้ว ช่วงเช้ายังมี “ทะเลหมอกผามออีแดง” ทะเลหมอกสองแผ่นดิน (ไทย-กัมพูชา) ให้ชมกันแบบจุใจ

5.ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา-ปราจีนบุรี : เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ในยามค่ำคืน มีระเบียงชมวิว ลานสนามหญ้าให้ดูดาวกันแบบพาโนรามา

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

6.ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี : จุดกางเต็นท์มาแรงในบรรยากาศโรแมนติกริมเขื่อนเขาแหลม เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีวิวทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ตกผ่านน้ำที่สวยงามมาก ยามค่ำคืนก็จะได้นอนชมดาวกลางทุ่งหญ้าริมน้ำกันอย่างสุดฟิน

7.ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ.อุบลราชธานี : อช.ผาแต้ม ปรับปรุงเส้นทางใหม่สู่บนหน้าผาชะนะได เป็นทางลาดยางสะดวกสบาย บนนั้นมีลานหินกว้างใหญ่โล่งกว้างให้แคมป์ปิ้งกางเต็นท์นอนดูดาว พอเช้ามืดมาก็เดินไปอีกประมาณ 700 เมตรที่จุดชมวิวผาชะนะได ริมฝั่งโขงเพื่อรับชมพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยาม

8.ทุ่งแสลงหลวง อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์-พิษณุโลก : ลานกางเต็นท์ในบรรยากาศทุ่งหญ้าป่าสน มีลานโล่งให้ชมดาว หรือจะหาฉากเป็นทิวสนให้ถ่ายรูปก็สวยงาม ที่สำคัญคือทุ่งแสลงหลวงยังเป็นจุดกางเต็นท์นอนดูดาวในบรรยากาศทุ่งโล่งกว้างของหญ้าสะวันนาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยอีกด้วย

9.เขาแหลมหญ้า อุทยานแห่งชาติเขาเเหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง : จุดกางเต็นท์แคมป์ปิ้งริมทะเลนอนฟังเสียงคลื่น ชมวิวเกาะเสม็ด มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติสวยงาม โดยมีด้านหนึ่งเปิดโล่งสามารถดูดาวตกริมทะเลได้อย่างสวยงาม (แต่ว่าอาจมีแสงรบกวนบ้าง)

10.กิ่วลม อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่ : ยอดดอยผ้าห่มปก (หรือฟ้าห่มปก) มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของเมืองไทย 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล แต่ที่นี่มี “จุดกางเต็นท์กิ่วลม” เป็นจุดกางเต็นท์อันสวยงามที่ได้ชื่อว่าเป็น“ลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย” ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,924 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งจะว่าไปนี่คือจุดดูดาวที่ใกล้ฟากฟ้ามากที่สุดของเมืองไทยก็ว่าได้

 

ย้อนรอยจุดชมฝนดาวตกเจมินิดส์ ณ จุดสังเกตการณ์หลัก 3 แห่ง ดังนี้

จ.เชียงใหม่ : NARIT ร่วมกับเทศบาลตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง ณ อ่างเก็บน้ำห้วยลาน ต. ออนใต้ อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ ใช้พื้นที่บริเวณรอบอ่างเก็บน้ำห้วยลานที่ค่อนข้างมืด ปราศจากแสงไฟรบกวน เหมาะแก่การสังเกตการณ์ฝนดาวตกเป็นอย่างยิ่ง ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ แนะนำการดูดาวเบื้องต้นและเทคนิคการถ่ายภาพฝนดาวตก ชมวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ และนอนนับฝนดาวตกตลอดคืนจนถึงรุ่งเช้า (โทร. 081-8854353)

จ.นครราชสีมา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา (โทร. 044-216-254)

จ.ฉะเชิงเทรา : หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทราต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา (โทร. 038-589-395)

(ทั้งนี้ รอโปรแกรมที่ชัดเจนอีกครั้ง ข้อมูลที่นำมาฝากนี้ อ้างอิงจากปี 2563 ที่เคยจัดงานผ่านมา)

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้


นี่ก็คืออีกหนึ่งที่คนรักดวงดาวเฝ้ารอคอย สำหรับการเฝ้ารอชม "ฝนดาวตกเจมินิดส์" ที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำคืนวันที่ 14 ธ.ค.65 นี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ดาราศาสตร์แห่งปี ที่ยังไง ๆ ก็ขอให้ท้องฟ้าวันนั้นเป็นใจ ฟ้าเปิด อากาศดี และไม่มีฝนตกลงมาทำลายบรรยากาศแต่อย่างใด

NARIT ชวนชม “ฝนดาวตกเจมินิดส์” ดูดาวท้าลมหนาว 14 ธ.ค.นี้

logoline