svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

30 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จับกระแสการเมืองไทย มองอนาคตเลือกตั้ง กติกาวันนี้ ใครได้ใครเสีย เจาะลึก ศึกภายใน ภายนอก พลังประชารัฐ ในวันที่ "3 ป."พร้อมแยกกันเดินรวมกันตี ติดตามได้ที่นี่ (คลิป)

 

"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์  "ไพบูลย์ นิติตะวัน"  ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และ "รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีต กรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) , ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา ม.รังสิต

 

ปิดฉาก 3ป. “ป้อม-ตู่” แยกทางใครร่วงใครรอด

 

"วราวิทย์"  คุณไพบูลย์ตอนนี้ในพรรคนิ่งแล้วหรือยังใครอยู่ใครไปตกลงยังไงกันแน่

 

"ไพบูลย์"  90% มีการเคลียร์กันค่อนข้างชัดแล้ว ทำให้พรรคดีขึ้นเยอะมีความชัดเจน เพราะว่าผู้ที่จะไปพรรคอื่นเราก็จะได้จัดผู้สมัครซึ่งมีคิวรออยู่แล้ว ผู้สมัครที่เขารอ สามารถให้เขาเข้าไปเริ่มหาเสียงได้ในฐานะจะเป็นตัวแทนพรรคได้

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

"วราวิทย์" ในระดับส.ส.ไม่เท่าไหร่ ในระดับแกนนำของแต่ละกลุ่มในพรรค  ตกลงนิ่งแล้วหรือยัง เช่น ท่านสุชาติ ชมกลิ่น ชัดเจนลาออกจากกรรมการบริหารพรรค กลุ่มสามมิตรฯลฯ ล่าสุดที่เช็คชื่อกันเป็นอย่างไร

 

"ไพบูลย์" ผมว่ามีระดับแกนนำไปอยู่คนเดียว คุณสุชาติเท่านั้นแหละที่เหลือไม่มีใครไป

 

"วราวิทย์" ถามต่อแน่ใจหรือ

"ไพบูลย์" สำหรับผมแน่ใจ

 

"วราวิทย์" กลุ่มสามมิตร บอกว่า ต้องดูทางสามมิตร เพราะว่าไม่เคยเสียสถิติเป็นรัฐมนตรีตลอดคุณไพบูลย์มองอย่างไร

 

"ไพบูลย์" ด้วยเหตุนี้ต้องยิ่งอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะอยากเป็นรัฐบาลต้องอยู่พรรคพลังประชารัฐ

 

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

 

"วราวิทย์" แต่พลังประชารัฐไม่เหมือนเดิมแล้วนะ ไม่มี"บิ๊กตู่"แล้วความนิยมจะกลับมาเหมือนปี 62 หรือครับ

 

"ไพบูลย์" เรื่องความเป็นรัฐบาลกับเรื่องความนิยม คนละเรื่อง ความเป็นรัฐบาลเกิดจากผู้นำพรรคมีลักษณะที่ทำให้พรรคนั้นมีความยืดหยุ่นที่จะสามารถจะเป็นพรรครัฐบาลได้ ไม่ว่าบริบทจะเป็นอย่างไรคือพรรคพลังประชารัฐโดยการนำของพล.อ.ประวิตร ผมเชื่อว่าในการเลือกตั้งปี 66 บริบทหลังจากการเลือกตั้งแล้ว พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลแน่นอนมั่นใจ

 

"วราวิทย์" คำว่า เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลหมายถึงว่าจะต้องชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2 ด้วยมั้ย

 

"ไพบูลย์"  เพราะเหตุว่าเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีเรื่องจะต้องชนะที่ 1 หรือ 2 อะไรทั้งสิ้น เพราะว่าการเลือกตั้ง นายกฯหลังการเลือกตั้งก็ยังอยู่ในเรื่องที่ต้องใช้รัฐสภา ต้องมีส.ว.มาร่วมโหวตด้วย ผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้เสียงมากกว่า 375 เสียงของส.ส.และส.ว. ซึ่งเรื่องของการที่จะได้เสียงอันดับหนึ่งแล้วจะมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่ใช่แล้วแหละในบริบทนี้ ผมพูดถึงปี 62 เหมือนกันพรรคเพื่อไทยได้เสียงอันดับหนึ่งก็ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านด้วย แต่พล.อ.ประวิตรในปี 62 เป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาล

 

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

 

"วราวิทย์" พูดเหมือนกับว่าส.ว.250 จะอยู่ทางลุงป้อมมากกว่าลุงตู่

 

"ไพบูลย์" ผมไม่พูดแบบนั้น แต่ผมพูดในบริบทที่มีส.ว.มาออกเสียงด้วย พรรคเพื่อไทยสมมติได้อันดับหนึ่งได้เท่าไหร่ ก็ไม่สามารถที่จะไปรวมเสียงให้ได้ถึง 375 เสียง แต่ถ้าเป็นพล.อ.ประวิตร ท่านรวมได้แต่ท่านจะรวมอย่างไรอีกเรื่องหนึ่งไม่ได้หมายถึงไปรวมกับเพื่อไทย ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตร จะทำหน้าที่ในฐานะเป็นผู้นำในการจัดตั้งรัฐบาลที่เหมาะสมที่สุดและก็จะมีแต่ท่านๆเดียวที่ทำได้สำเร็จ

 

"วราวิทย์" อาจารย์สมชัยคุณไพบูลย์มั่นใจมาก มีข้อสังเกตอะไรบ้างจากทิศทางของพลังประชารัฐหลังจากนี้

 

"รศ.สมชัย" ไมอยากจะบอกว่าส.ว.ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง จะไปคาดการเขาจะไปฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือบุคคลใด หรือแม้กระทั่งคนที่มีส่วนแต่งตั้งเขาเข้ามาก็ไม่ถูกต้อง ยังคาดหวังว่า ส.ว.ต้องมีสติในเรื่องพวกนี้ ท่านจะต้องดำรงตนในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิของบ้านเมือง ในคราวที่ผ่านมาเรายอมรับการแข่งขันคือพล.อ.ประยุทธ์ท่านหนึ่ง คุณธนาธรท่านหนึ่ง

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

"ถามผม ณ วันนั้นถ้าผมไม่ได้สังกัดพรรคใดทั้งสิ้น ระหว่างคนสองคนผมก็เลือกคุณประยุทธ์ เพราะประสบการณ์ทำงานในส่วนที่เคยเป็นรับราชการมาก่อน เคยดำรงตำแหน่งในเชิงที่เป็นนายกฯมาก่อนน่าจะนำพาประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่ว่าครั้งหน้าเราไม่รู้สิครับว่า ใครจะมาเป็นตัวเลือก ในการที่สภาจะต้องตัดสินใจในการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ณ วันนั้นส.ว.ต้องคิดต้องไตร่ตรอง ต้องดูให้เหมาะว่าฝั่งหนึ่งเสนอชื่อนี้ขึ้นมาแต่อีกฝั่งหนึ่งเสนออีกชื่อขึ้นมาเป็นอย่างไร ในขณะเดียวกันต้องมองความรู้สึกของประชาชนทั้งประเทศด้วยว่าประชาชนให้การอนุญาตว่าใครหรือพรรคการเมืองไหนเข้ามาเป็นเสียงข้างมากในสภา"

 

ตอนที่ผมเสนอแก้มาตรา 272 ที่อบกว่าตัดอำนาจส.ว.ในการเลือกนายกฯ ผมยังจำได้แม่นส.ว.หลายที่อภิปรายบอกว่าถึงเวลาเลือกนายกฯคราวหน้า เขาก็ต้องดูว่าพรรคการเมืองไหนที่สามารถรวบรวมเสียงเกิน 250 เสียงในสภา เขาคงไม่บ้าที่จะไปเลือกพรรคที่วันนี้เลือกได้เป็นนายกฯแต่อีกเดือนสองเดือนก็ล้ม เนื่องจากไม่มีเสียงข้างมากในสภา เพราะฉะนั้นสิ่งๆนี้ ผมคิดว่าคงเป็นสิ่งที่ส.ว.ต้องไตร่ตรอง ต้องคิดนะว่าท่านจะตัดสินใจเลือกใคร แน่นอนอาจจะมีแต้มต่ออยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าพลังประชารัฐจะได้ส.ส.ในสภาเท่าไหร่ ถ้าพรรคอื่นได้ 1,2,3 แล้วพลังประชารัฐเป็น 4,5 ขึ้นมา ความสง่างามจะน้อยลงแล้ว และผมใช้คำว่ามารยาททางการเมืองต้องคำนึงถึงเหมือนกัน

 

"วราวิทย์" ถามว่า บัตร 2 ใบจะไม่เป็นผลดี ของพรรคพลังประชารัฐ และ พรรคใหม่ของพลเอกประยุทธ์ 

 

"ไพบูลย์"  ตอบว่า ไม่เห็นด้วย เพราะการใช้บัตรสองใบ เพื่อให้ทราบว่าประชาชนเลือกผู้แทนเขต ส่วนบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ จะได้คะแนนนิยมของพรรคการเมือง ซึ่งการเลือกตั้งบัตรสองใบแบบนี้จะมีศักดิ์ศรีมากกว่าแบบเดิมที่ไปไล่เก็บคะแนนตกหล่นมา  ซึ่งจะเป็นคะแนนที่ตรงจากประชาชน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องมาจากคะแนน 3 แสนคะแนน และเชื่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนไม่ลดลง เพราะจะมีความชัดเจนจากส.ส.เขต ก็จะได้คะแนนบัญชีรายการชื่อตามมาด้วย 

 

"วราวิทย์" ถามเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ล่าสุด 3 ตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่ง  ธนกร วังบุญคงชนะ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะถูกมองว่าไปเอาโควต้าของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะเป็นคนของพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา 

 

"ไพบูลย์"  บอกว่าเป็นอำนาจของพลเอกประยุทธ์ ที่ปรับโดยแบ่งสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคพลังประชารัฐ และคงจะหารือกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ซึ่งจะมีการตกลงกันก็เรื่องจบไม่เป็นประเด็นความขัดแย้ง ส่วนที่มีคนลาออกจากพรรคก็ไม่ใช่เลือดไหลออก แต่เป็นการลาจากด้วยดี 

สองมุมมอง หลังกติกาเลือกตั้ง"ลุงตู่-บิ๊กป้อม"ใครร่วงใครรอด (มีคลิป)

"สมชัย" มองว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย โดย การแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งกรณี"คุณธนกร" มารับตำแหน่ง ก็ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หากไม่โวย เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐไป ซึ่ง "คุณธนกร" คงช่วย"พลเอกประยุทธ์" ในการวางฐานนิยมในภาคใต้  ส่วนโควต้าจากกลุ่มปากน้ำ  คงจะมาจาก ส.ส.6 คนต่อโควต้ารัฐมนตรีเป็นการจัดการทางการเมือง  ส่วนประเด็น คุณ สุชาติ ชมกลิ่น  ต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงานหรือไม่ หากมองในเชิงนิตินัยยังไม่ได้ลาออกจากพลังประชารัฐ เพราะฉะนั้นเป็นสิทธิที่จะดำรงตำแหน่ง  แต่กลุ่มที่จับตาดู กลุ่มสามมิตร ต้องจับตาถึงที่สุดซึ่งยังไม่ออกมากล่าวอะไร 

 

"ไพบูลย์"  กล่าวว่า คนที่ลาออกจากพลังประชารัฐ ไม่ใช่เลือดไหล และเป็นการออกที่ส่วนน้อย ซึ่งแกนนำที่ลาออก มีเพียง "คุณสุชาติ ชมกลิ่น"  ภาคใต้อีก 4 คน ซึ่งขอความชัดเจน ใครออกจะได้จัดคนมาทำงานพื้นที่แทน   90 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ หลายคนหลายกลุ่มชัดเจนที่จะทำงานกับพลังประชารัฐ รวมทั้งกลุ่มสามมิตร รายงานตัวแล้ว ปัญหาที่จะเกิดพรรคพลังประชารัฐ ที่ ส.ส.เข้า หรือ ออก เป็นเรื่องปกติ  ซึ่งมองว่า เป็นปัญหาและโอกาส ขณะนี้ "พลเอกประวิตร" กำลังดำเนินการ ฟอร์มทีมอยู่  และเชื่อว่า "พลเอกประวิตร"  จะเป็นผู้จัดการตั้งรัฐบาล ในอนาคตแน่นอน 

 

ชมคลิป>>>

 

logoline