พม.เข้าช่วยแล้ว กรณี นร.หญิง ถูก นร.ชาย บุกล่วงละเมิดทางเพศ

ความคืบหน้าคดี ที่ นร.ชาย โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ บุกข่มขืน นร.หญิง ภายในหอพักหญิง ต่อหน้าเพื่อน 30 คน โดยขณะนี้มีรายงานว่า ทางโรงเรียนได้มีการไล่ออกนักเรียนที่ก่อเหตุแล้ว 5 คน ขณะที่ทางตำรวจอยู่ระหว่างการเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา หลังสหวิชาชีพทำการสอบข้อมูลเสร็จสิ้น พร้อมเผยข้อเท็จจริงทางคดีเบื้องต้นว่า อาจไม่ได้เป็นตามที่มีการนำเสนอก่อนหน้านี้ทั้งหมด (อ่านข่าว)

ล่าสุดวันนี้ (24 ก.ย.) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ในฐานะโฆษก พม. เผยว่า กรณีดังกล่าว ทาง พม. จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ และนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ได้ช่วยกันสอบข้อเท็จจริงจากผู้บริหารโรงเรียน และครูผู้เกี่ยวข้อง ทราบว่า สถานที่เกิดเหตุ เป็นสถานที่พักของนักเรียนหญิงที่ติดโควิด - 19 

โดยโรงเรียนอำนวยความสะดวกจัดพื้นที่บริเวณชั้น 2 ของโรงฝึกงาน ให้เป็นพื้นที่กักตัวและรักษาอาการป่วย อีกทั้งจัดให้มีครูเวรดูแลในช่วงกลางวัน 2 คน และช่วงกลางคืน 2 คน โดยเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 65 เวลา 22.30 น. มีนักเรียนชายเข้ามาหานักเรียนหญิงในอาคารกักตัว และได้มีเพศสัมพันธ์กัน

หลังจากนั้น ผู้บริหารโรงเรียนจึงเรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย มารับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ปกครองมีความเห็นว่าไม่อยากให้ดำเนินคดี และขอให้โรงเรียนจัดทำบันทึกข้อความคำยินยอมของผู้ปกครอง ให้โรงเรียนพานักเรียนหญิงรับยาคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ในระหว่างการเรียนต่อในโรงเรียน 
 

จากนั้น เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 ผู้ปกครองเด็กหญิงผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเด็กชายผู้ถูกกล่าวหา และกำหนดสืบพยานเด็กร่วมกับทีมสหวิชาชีพในวันที่ 27 ก.ย. 65  ปัจจุบันเด็กหญิงผู้เสียหาย ได้กลับไปอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองที่ต่างจังหวัด และเด็กชายผู้ถูกกล่าวหา ได้อยู่ในความดูแลของครอบครัวในต่างจังหวัดเช่นกัน โดยทางโรงเรียนได้ส่งแบบฝึกหัดการเรียนให้ทำ เพื่อให้เด็กทั้งสองคนอยู่ในระบบการศึกษาตามปกติ
 

นางสาวแรมรุ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กระทรวง พม. โดยหน่วยงาน ทีม One Home พม. จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ให้คำแนะนำปรึกษาแก่โรงเรียน ในเรื่องการคุ้มครองเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 โดยนักสังคมสงเคราะห์ ได้พูดคุยและเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิง ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงจะเข้าร่วมสอบปากคำในชั้นสอบสวน ในวันที่ 27 ก.ย. นี้  

อีกทั้งได้ประสานความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ 1.อัยการคดีเยาวชนและครอบครัว ให้คำปรึกษาแนะนำด้านการดำเนินคดี  2.พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย  3. ศูนย์เสมารักษ์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์  ให้คำปรึกษาแนะนำแก่เด็กได้เรียนจนจบการศึกษา โดยไม่ไล่ออก รวมทั้งให้นักจิตวิทยาดูแลสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง  และ 4.สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องค่าผู้เสียหายในคดีอาญา โดยประสานผ่านพนักงานสอบสวน