รวบโจรพ่อลูกอ่อน ใช้บีบีกันชิงเงินร้านสะดวกซื้อ อ้างเงินไม่พอเลี้ยงลูก

วันนี้ (21 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ เหตุเกิดช่วงเวลา 03.00 น. วันที่ 20 ก.ย. โดยตำรวจรับแจ้งมีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน ใช้อาวุธปืน ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ ภายในสาขาสถานีบริการน้ำมัน ปตท. บ้านใหม่-บางขวัญ ถ.ฉะเชิงเทรา - บางน้ำเปรี้ยว หมู่ที่ 1 ตำบลบางขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 8,700 บาท

หลังเกิดเหตุได้สังการให้ พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.ส.ส.จว.ฉช. และชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา สนธิกำลังร่วมกันติดตามจับกุมตัวคนร้าย เนื่องจากพฤติกรรมอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ คือ นายปรีชา หรือ เบียร์ ชัยบุตร อายุ 28 ปี ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว ลักษณะรถตู้บรรทุก หมายเลขทะเบียน บว5391 ฉะเชิงเทรา เป็นยานพาหนะมาก่อเหตุและหลบหนี
 

โดยช่วงค่ำวานนี้ ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายปรีชา ได้ระหว่างเตรียมตัวหลบหนี ที่บริเวณ ริมถนนหน้าค่ายกองพันทหารช่างที่ 2 ถนนศรีโสธร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางเป็นอาวุธ ปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ (ปืนอัตลมบีบีกัน) จำนวน 1 กระบอก , เงินสดจากการก่อเหตุ ซึ่งเหลืออยู่ จำนวน 4,796 บาท , รถยนต์กระบะที่ใช้เป็นยานพาหนะก่อเหตุและหลบหนี และเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายที่ใช้สวมใส่ขณะก่อเหตุ ซึ่งตรงตามภาพจากกล้องวงจรปิด 

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีหรือใช้อาวุธปีน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อใช้พันการจับกุม

สอบสวนนายปรีชา อ้างว่า เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ย. ตนได้ขับรถยนต์กระบะไปจอดอยู่ที่บริเวณริมถนนฉะเชิงเทรา - บางน้ำเปรี้ยว เลยสถานีบริการน้ำมันที่เกิดเหตุไปเล็กน้อย เพื่อดูลาดเลาก่อน จากนั้นจึงทำทีเดินเข้าไปซื้อเครื่องดื่มเป็นโค้กลิตรและกาแฟกระป่องก่อน เพื่อให้แนใจว่าภายในร้านสะดวกซื้อฯ ปลอดคนแล้ว จึงเดินกลับมาที่รถเพื่อนำเอาอาวุธปืนกลับเข้าไปในร้านอีกครั้งเพื่อก่อเหตุ แล้วหลบหนีไป

ต่อมาจึงนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากภรรยาเพิ่งคลอดบุตรได้ประมาณ 3 เดือน เงินเดือนทำงานคนเดียว และสินค้าที่รับ - ส่ง เกิดเสียหาย ตนจึงต้องชดใช้ ทำให้เงินไม่พอใช้ จึงมาก่อเหตุดังกล่าวตนสำนึกผิดแล้ว และจะไม่คิดทำผิดกฎหมายอีก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป