ทุกข์มาก แม่ร้องช่วย "เด็ก 9 ขวบ" ผมร่วมเกือบทั้งหัว หลังฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 2
แม่ “เด็ก 9 ขวบ” ภูเก็ตวอนหน่วยงานเร่งช่วยลูกสาวผมร่วงหนักเกือบทั้งหัวโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังฉีดวัคซีนโควิด – 19 เข็มที่ 2
วันนี้ (31 ส.ค. 65 ) ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีผู้ใช้เฟชบุ๊กแฟนเพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 5.2" โพสต์ภาพและข้อความระบุถึงกรณีเด็กหญิงวัย 9 ขวบประสบปัญหาผมร่วงเกือบทั้งศีรษะ หลังฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 2 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงโดยข้อความระบุว่า
ระบุข้อความว่า “9 ขวบผมร่วงเพราะวัคซีนใช่หรือไม่ น้องอายุแค่นี้ จะเติบโตมาอย่างไรจะมีปมไหม สื่อสังคมช่วยตรวจสอบส่งต่อเรื่องราวด้วย สสจ.ภูเก็ต หรือ จนท.ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลหน่อย ลูกสาว 9 ขวบฉีดวัคซีนเข็ม 2ประมาณเดือนพฤษภาคมพอถึงกรกฎาคม ผมก็ร่วง ร่วงจะหมดหัวเลยครับตอนนี้ เกี่ยวกับวัคซีนมั้ยครับ น้องไม่มีประวัติแพ้ยาครับ ปกติผมดกดำไม่มีกรรมพันธุ์คนในบ้านผมร่วง ตอนนี้น้องมีอาการผมร่วงอย่างเดียวครับ ร่วงหนักมากใกล้จะล้านแล้วครับ ไปตรวจตามคลินิกหมอผิวหนังเฉพาะ และล่าสุดตรวจกับหมอโรงบาล หมอผิวหนังก็บอกว่าเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อม (น้องฉีดวัคซีนได้ 2 เดือนแล้วน้องมาติดโควิดเดือนกรกฎาคม 65 พอหาย ก็เริ่มร่วงมาตลอด) น้องฉีดที่อาคารสนามบินภูเก็ตครับ ผมก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับวัคซีนหรือมั้ย แต่ปกติน้องก็แข็งแรงปกติทุกอย่าง พอหายจากโควิดก็ร่วงหนักเลย ตอนนี้เครียดมากครับ สงสารน้องต้องใส่หมวกคลุมไปเรียนครับ”
จากการตรวจสอบข้อมูลและลงพื้นที่ไปยังบ้านของเด็กคนดังกล่าว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยได้มีการพูดคุยกับ นางจีรนันท์ (ขอสงวนนามสกุล) แม่ของเด็ก เล่าว่า น้องเป็นเด็กที่มีสุขภาพดี แข็งแรงและเล่นกีฬาเล่นทุกอย่างแล้ว ชอบเล่นเซิร์ฟสเก็ต แต่หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สังเกตดูว่า น้องฉีดได้ประมาณเดือนกว่าๆ และประมาณเดือนครึ่ง เริ่มมีอาการผมร่วง จึงโทรศัพท์ไปสอบถามคุณครูที่โรงเรียนว่า น้องได้ทะเลาะกับเพื่อนแล้วมีการดึงผมกันหรือเปล่า ซึ่งทางโรงเรียนได้สืบหาให้ แต่ไม่พบว่าน้องทะเลาะกับใครหรือมีการดึงผมกัน
ขณะเดียวกันคุณครูได้สอบถามมาทางพ่อแม่และให้ลองดึงผมน้องว่า ร่วงหรือไม่ คุณแม่จึงได้ลองดึงผมน้องปรากฏว่า ผมหลุดออกมา ทำให้ครอบครัวสันนิษฐานว่า สาเหตุของที่น้องผมร่วงน่าจะมาจากการฉีดวัคซีน หรืออาจเป็นอาการที่เกิดขึ้นหลังจากป่วยโควิด-19 หลังจากนั้นครอบครัวได้พาไปรักษาตามคลินิกรวม 3 แห่ง หมดเงินไปแล้วกว่า 10,000 บาท แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ทำให้ตอนนี้เป็นทุกข์มาก นอกจากนี้ยังได้พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามทางด้านนายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง หลังจากทราบเรื่อง ได้มอบหมายให้ทางสาธารณสุขอำเภอ สอบถามอาการของน้องและจะลงมาดูแล เพื่อให้การช่วยเหลือและหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อที่จะทำการรักษาต่อไป
