24 ส.ค.65 นางเฉลียว สัตย์รัมย์ อายุ 63 ปี ชาวอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือนางพรพรรณ ลูกสาว และนายธนวัฒน์ ลูกเขย หลังจากที่ลูกสาวได้ติดต่อมาจากประเทศฟิลิปปินส์ ว่าถูกนายจ้างกดขี่ข่มเหงบังคับให้ทำงานหนัก ไม่ค่อยได้พักผ่อน ล่าสุดถูกนายจ้างจับใส่กุญแจมือกักขังเอาไว้ในห้องรวมกันกับคนไทยที่ไปทำงานด้วยกันรวม 10 คนให้อดข้าวอดน้ำ อ้างว่าทำงานไม่ได้ยอดตามเป้าที่บริษัทกำหนด ทั้งบังคับให้เรียกเงินค่าไถ่จากญาติที่ไทยให้โอนไปแลกกับการปล่อยตัวกลับไทยคนละ 1 แสนบาท ทั้งขู่ว่าหากไม่ยอมจ่ายก็จะส่งตัวลูกสาวกับลูกเขยไปขายต่อประเทศอื่น
โดยนางเฉลียว เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อเดือน พ.ค.65 ที่ผ่านมา ลูกสาวและสามีได้เดินทางไปทำงานเป็นพนักงานเสริ์ฟร้านอาหารที่ จ.ชลบุรี เพื่อหาเงินมาส่งลูกเรียน และใช้หนี้ที่มีอยู่หลายแสนบาท ต่อมาเดือน ก.ค. ลูกสาวโทรมาบอกว่าเพื่อนชวนไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งมีค่าแรงสูง ตอนนั้นตนก็เตือนลูกสาวว่าอย่าไปเลยมันเสี่ยงกลัวจะถูกเขาหลอก ก็ไม่คิดว่าลูกสาวกับลูกเขยจะไปจริงๆ มารู้อีกทีเดือน ก.ค.ว่าลูกอยู่ที่ฟิลิปปินส์แล้ว หลังจากไปทำงานเดือนแรกก็ส่งเงินมาให้ 2 ครั้งๆ แรก 3,500 บาท ครั้งที่สอง 7,500 บาท แต่ล่าสุดกลับโทรมาบอกว่าถูกนายจ้างที่ฟิลิปปินส์กักขัง เพราะทำงานไม่ได้ตามเป้า หากจะให้ปล่อยตัวต้องจ่ายเงินค่าไถ่คนละ 1 แสนบาท ตนก็ตกใจมากไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายให้ลำพังจะกินอยู่แต่ละวันก็ลำบาก ตอนนี้เป็นห่วงลูกสาวมากกลัวเขาจะทำร้ายหรือส่งขายต่อประเทศอื่นตามที่เขาขู่เอาไว้ จึงอยากวิงวอนให้ทางรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือลูกสาวและลูกเขยด้วย
ขณะที่ น.ส.โสรีญา สัตย์รัมย์ อายุ 26 ปี น้องสาว เล่าว่า ตอนแรกพี่สาวได้ติดต่อมาหาเพื่อนอีกหมู่บ้านบอกว่าถูกนายจ้างจับขังไว้ที่ฟิลิปปินส์ เพื่อนคนดังกล่าวจึงส่งเฟซมาบอกทางบ้านว่าพี่สาวถูกกักขังไว้ ทางครอบครัวก็ตกใจมากพยายามโทรติดต่อแต่มือถือก็ฝากข้อความ กระทั่งพี่สาวติดต่อมาเอง โดยบอกว่าเขายึดโทรศัพท์เอาไว้เขาอนุญาตให้ใช้ถึงจะได้ใช้ โดยเขาให้โทรมาบอกกับทางบ้านให้โอนเงินไปจ่ายค่าไถ่ตัวพี่สาวกับพี่เขยคนละ 1 แสนบาท ถึงจะยอมปล่อยตัวส่งกลับไทย จากการสอบถามพี่สาวว่าทำไมเขาถึงจับขังพี่ก็บอกว่า เขาให้ทำงานเป็นแอดมินเพื่อชักชวนคนไปร่วมทุนเกี่ยวกับเงินดิจิทัล บิทคอยน์ และแนะนำขายสินค้าตามที่เขาสั่ง แต่ทำยอดไม่ได้ตามเป้าจึงขังเอาไว้ให้อดข้าวอดน้ำ รวมกับคนไทยที่ทำงานด้วยกัน 10 คน แล้วบังคับให้ติดต่อญาติเพื่อโอนเงินไปแลกกับการปล่อยตัวส่งกลับประเทศคนละ 1 แสนบาท ให้เวลาภายใน 2 วัน หากใครไม่มีก็จะถูกส่งไปขายต่อที่ประเทศอื่น ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่สาวมาก จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือพี่สาวและพี่เขยด้วย
ภาพ/ข่าว - สุรชัย พิรักษา สำนักข่าวเนชั่น จ.บุรีรัมย์