หมัดเดียวร่วงแท็กซี่ขอนแก่นชกกันใน บขส.ปมแย่งลูกค้า

8สิงหาคม2565ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “สิทธิ์ แท็กซี่อีสาน” ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ถูกคู่กรณีเป็นชาย2คน สวมใส่เสื้อน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว สวมแว่นตา กับชายเสื้อแดง กางเกงยีนส์ขาสั้นซึ่งเป็นคนขับแท็กซี่ในขอนแก่นเช่นกัน ได้เข้ามาหาเรื่องที่จุดจอดรถแท็กซี่ส่วนบุคคล ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่3จังหวัดขอนแก่นก่อนที่สักพักชายคู่กรณีที่สวมใส่เสื้อน้ำเงิน จะชกเข้าที่กรามของตนเองขณะที่นั่งอยู่โต๊ะ จากนั้นตนเองที่นั่งอยู่ได้ลุกขึ้นแล้วชกเข้าที่ใบหน้า จนทำให้คู่กรณีล้มหงายหลังลงไป สักพักก็มีคนมาห้ามปราม แยกย้ายทั้งคู่ออกจากกันโดยระบุว่า “ผมเป็นคนทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวนะครับผมไม่ใช่เป็นนักเลง เนื่องด้วยเมื่อเวลา 17.10 น.ผมได้นั่งรอคิว รับผู้โดยสารอยู่ที่ บขส.3 อยู่ดีๆก็มีสมาชิกด้วยกันเข้ามาหาเรื่องผม โดยที่ใช้คำต่อว่าน้ำเสียงกระแทกใส่ผม แล้วเขาก็ได้ชกเข้าที่กามผม ทำให้ผมมึนผมก็เลยต้องป้องกันตัวครับ ผมอยู่ดีๆเรื่องก็มาหาต่อจากนี้ผมคงจะไม่ปลอดภัยแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจครับ.

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่จุดจอดรถส่วนบุคคล ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่3 จังหวัดขอนแก่น พบกับนายฐิติวัสส์ ชมเกลี้ยง อายุ 39 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่ถูกกรณีมาหาเรื่อง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองเป็นชาวจังหวัดนนทบุรี ย้ายมาขับแท็กซี่ส่วนบุคคลที่ขอนแก่น มานานกว่า 13 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ทำงานไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อน ซึ่งปกติแล้วตนเองจะขับรถตะเวนรับลูกค้าทั่วเมืองขอนแก่น และจะมีจุดประจำ คือ ที่จุดจอดรถภายใน บขส.3และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2565 ช่วงเวลา 17.10 น. ตอนนั้นตนเองกำลังนั่งรอลูกค้ามาเรียกใช้บริการ เพราะเป็นคิวแรก จังหวะที่กำลังนั่งรอลูกค้าอยู่ ก็มีคู่กรณีที่เคยมีปัญหากันมาเมื่อ 2 ปีก่อน จากปัญหาการแย่งลูกค้ากันแต่ก็จบกันไป วันเกิดเหตุคาดว่าคู่กรณียังคงบาดหมางตนเองตลอด จนกระทั่งวันเกิดเหตุ

นายฐิติวัสส์ บอกอีกว่า ตอนนั้นนั่งรอลูกค้าตามปกติ สักพักคู่กรณีได้เดินเข้ามาหาเรื่องถึงที่ จากนั้นชายคู่กรณีก็พูดจา ถามตนเองว่า มีปัญหาอะไร มีใครพูดอะไรไม่ดีกับเพื่อนของชายคู่กรณีหรือไม่ ตนเองก็ตอบว่า ไม่รู้เรื่อง ก่อนที่สักพักชายคู่กรณีจะชกเข้ามาใบหน้าของตนเองก่อน ด้วยความโมโหตนเองก็เลยชกคืน ถูกใบหน้าของคู่กรณีจนทำให้ล้มลงจากนั้นก็มีคนมาห้ามปราม แต่ชายคู่กรณีก็ยังไม่หยุด ยังคงมาหาเรื่องตนเองต่อ ผ่านไปสักพักชายคู่กรณีจึงได้ขับรถแท็กซี่กลับ ต่อมาตนเองก็ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก่อนจะไปโรงพยาบาล เนื่องจากปวดที่กรามและได้รับบาดเจ็บที่มือบวม ทำให้ตอนนี้ไม่สามารถทำงานขับรถแท็กซี่ได้ จนกว่าแผลที่มือจะหาย ประมาณ 3-4 วัน ซึ่งตนเองยืนยันว่า เรื่องเมื่อ 2 ปีก่อนตนเองไม่ติดใจอะไรแล้ว ตอนนั้นหากเป็นไปได้ก็อยากให้คู่กรณีมาขอโทษ เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เนื่องจากยังไงก็ทำอาชีพเดียวกัน ไม่อยากให้มาทะเลาะกันอีก

ข่าว/ภาพ กฤศเมธ โลโห สำนักข่าวเนชั่น จ.ขอนแก่น