เปิดใจ “ป้าเป้า”ยันไม่ได้รับความเป็นธรรมเตรียมยื่นอุทธรณ์สู้คดี

นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือ “ป้าเป้า” เปิดใจกับเนชั่นออนไลน์ หลังถูกศาลอาญาตัดสินจำคุกพร้อมพวกรวม 7 คน คนละ 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท ความผิดฐานร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 จากเหตุชุมนุมจัดกิจกรรม ““11 สิงหา ไล่ล่าทรราช”  “ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2564 แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนอีกทั้งประกอบอาชีพและมีภาระต้องเลี้ยงดูแลครอบครัว จึงอยากให้ เอาเป็นบทเรียนและทบทวนตัวเอง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี และคุมความประพฤติ 2 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 8 ครั้ง ภายในระยะเวลาที่กำหนด และทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

“ป้าเป้า” ยอมรับว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนคดี แต่ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาล แต่อย่างไรก็ตามมองว่าคำตัดสินแรงเกินไปและไม่ยุติธรรม หากเทียบกับคดีอื่นๆ ซึ่งตนไปขายของ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้ชุมนุม และไม่มีใครเป็นโควิดหรือแพร่เชื้อโควิดแต่อย่างใด โดยเตรียมยื่นอุธรณ์สู้คดีถึงที่สุด ส่วนเงินค่าปรับ 2 หมื่นบาทนั้น ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งหากตนไม่ได้เงินกองทุนราษฏร คงไม่มีปัญญาหามาจ่ายแน่นอน พร้อมเรียกร้องขอความยุติธรรมด้วย