สลดสองปู่ ย่าล่ามโซ่หลาน 11 ขวบฐานไม่เชื่อฟัง

  วันที่ 31 ก.ค 65 ผู้ใช้เฟชบุ๊คชื่อ"ไม่รู้ ลืมแล้ว” ได้โพสต์ คลิป เด็กหญิง ถูกล่ามโซ่ไว้ในบ้าน โดยมีปู่กับย่าเด็ก เป็นคนควบคุม พร้อมกับเอาไม้ตีหลานตัวเอง พร้อมข้อความว่า “ขออนุญาตแอดมินนะครับ หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือด้วยนะครับ ตาใช้ความรุนแรงเกินกว่าสมควร”ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 229 ม.6 ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ ตอบโต้ภัยพิบัติบุรีรัมย์ อำเภอลำปลายมาศ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ถึงภาพที่ถูกนำไปโพสต์เบื้องต้นพบ น้องบิวตี้ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี อยู่บ้านเพียงลำพัง บริเวณขาซ้ายยังถูกโซ่มัดกับขาอยู่ ส่วนปู่กับย่าไม่อยู่บ้าน ออกไปหาปลา ปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบตามร่างกาย พบมีรอยช้ำบริเวณลำคอ จึงใช้เครื่องมือ ช่วยเหลือถอดโซ่ออกจากขาของน้องเพื่อให้น้องบิวตี้หายเจ็บ

 น้องบิวตี้ เล่าว่า สาเหตุที่ปู่กับย่า ล่ามโซ่ที่ขา เพราะว่า ปู่กับย่าไม่ให้ไปเล่นกับเพื่อน บางครั้งหนูอยู่คนเดียวก็อยากไปเล่นกับเพื่อนเพราะ “ หนูเหงา” ปู่กับย่า ชอบเอาไม้ตีหนู มัดเอาไว้ บางทีก็บีบคอหนูด้วย หนูเจ็บ หนูกลัว    โดยต่อมาได้มีนายโดย เหลาทอง อายุ 59 ปี ปู่ของ น้องบิวตี้ ยอมรับตนเป็นคนล่ามโซ่ ใช้เชือกมัดกับขื่อ และเฆี่ยนตีหลานสาวจริง เพราะโมโหที่หลานสาว มีนิสัยที่ดื้อ ชอบหนีเที่ยวไปเล่นกับเพื่อนๆจนมืดจนค่ำไม่ยอมกลับบ้าน ตนและย่า ห้ามก็ไม่ยอมฟังสาเหตุที่ทำเพราะเป็นห่วงหลาน ตนยอมรับไม่รู้จะทำวิธีไหนให้หลานเชื่อฟัง เพราะตนเองก็ต้องทำงานรับจ้างเพื่อหาเงิน ให้ย่าเลี้ยงก็เอาไม่อยู่ จนจำเป็นต้องใช้ความรุนแรง โดยการล่ามโซ่ดังกล่าว ถามว่าสงสารหลานไหม สงสารแต่ไม่รู้จะทำยังไง ยอมรับว่าตนต้องทำงานหนัก เพราะตนเลี้ยงหลานตั้งแต่ยังเล็ก เนื่องจากพ่อแม่หลานหย่าร้างกัน

 ด้านนาย ช่อ วานิชกลาง อายุ 75 ปี พ่อค้าขายไก่ย่าง บริเวณหน้าบ้านของน้องบิวตี้ กล่าวว่า เมื่อวาน ตอนเย็น เลิกขายของกำลังจะเก็บร้าน ก็เห็นปู่น้องน้องบิวตี้กลับมาจากทำงาน แล้วก็มาตีหลาน พอตีหลานเสร็จก็ใช้โซ่ ใช้เชือกมัดมือมัดเท้าจากนั้นก็ใช้ไม้เฆี่ยนเอาๆ ดุอย่างแรง หลานสาวก็ร้อง กรี๊ดด้วยความเจ็บปวด จึงให้ลูกชายถ่ายคลิปไว้ และไปโพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะถือว่าปู่ก็ทำเกินกว่าเหตุ ทำลักษณะนี้ประจำ หลานสาวยังเป็นเด็กก็คือเด็กวันยังค่ำอยากออกไปเล่นกับเพื่อนบ้างตามประสา มาวางกฏวางระเบียบเยอะไปก็ไม่ดี จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาช่วยเหลือดูแล ทางครอบครัวนี้

ภาพ/ข่าว: เรืองรุจ  วังแจ่ม  สำนักข่าวเนชั่น  จ.บุรีรัมย์