22 กรกฎาคม 2565 สถานการณ์โควิด-19 “โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.5” ถือเป็นระลอกที่ 6 มีการระบาดที่รวดเร็ว หลายคนรอดการติดเชื้อมานาน กลับมาติดเชื้อในระลอกนี้ ล่าสุด “หมอมนูญ” นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” เผยรายงานทางการแพทย์พบผู้ป่วยโควิด กลับมาตรวจพบเชื้อเป็นบวกหลังหายเพียง 2-8 วัน มีรายละเอียดดังนี้
มีรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส แพ็กซ์โลวิด หรือ โมลนูพิราเวียร์ นาน 5 วัน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้นหลังจากได้รับยา และอาจมีผลการตรวจการติดเชื้อเช่น ATK เป็นลบ แต่ 2-8 วันหลังหยุดยา กลับมามีอาการป่วยใหม่เหมือนกับการป่วยครั้งแรก และผลการตรวจการติดเชื้อ ATK กลายเป็นบวกอีก (COVID-19 rebound)
ปรากฎการณ์เช่นนี้พบได้น้อยแค่ 1-2 % เท่านั้น หลังกลับมาป่วย ไม่ต้องกินยาต้านไวรัสใหม่อีกรอบ แต่ขอให้กักตัวอย่างน้อย 5 วันนับจากวันที่เริ่มป่วยรอบที่สอง และใส่หน้ากากอนามัยต่ออีก 5 วันจนครบ 10 วัน เมื่อคนไทยส่วนใหญ่เข้าถึงยาโมลนูพิราเวียร์ เราจะเห็นปรากฏการณ์ COVID-19 rebound หลังกินยาโมลนูพิราเวียร์มากขึ้น
ผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครบ 4 เข็ม มีอาการเจ็บคอ เสียงแหบ ไข้ต่ำๆ 37.8 องศาเซลเซียส ตรวจ ATK ให้ผลบวก เริ่มกินยาโมลนูพิราเวียร์ 4 แคปซูล เช้า เย็น วันที่ 2 หลังกินยา อาการดีขึ้น วันที่ 4 ไม่มีอาการเลย ตรวจ ATK ให้ผลลบ กินยาโมลนูพิราเวียร์จนครบ 5 วัน 40 แคปซูล
ต่อมา 7 วันหลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ กลับมาเจ็บคอ เสียงแหบใหม่ ตรวจ ATK ให้ผลบวกอีก คาดว่าน่าจะเป็น COVID-19 rebound จากการใช้ ยาโมลนูพิราเวียร์ ผู้ป่วยรายนี้ 11 วันหลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ อาการเกือบปกติแล้ว มีน้ำมูกบ้าง แต่ผล ATK ยังเป็นบวก คนที่กลับมาป่วยใหม่ไม่ต้องกินยาต้านไวรัสอีก ให้กินยาตามอาการ หลังจากนั้นก็จะหายเอง