ม.2 ถูกรุ่นพี่รุมทำร้าย แม่เผยทำใจไม่ได้อยากให้ทางโรงเรียนดำเนินการ

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 2 โพสต์ภาพเด็กนักเรียนหญิงรายหนึ่งถูกรุ่นพี่ผู้หญิง 4 คน รุมทำร้ายในห้องเรียน ซึ่งเป็นภาพจากคลิปวิดิโอที่เพื่อนของนักเรียนหญิงที่ถูกทำร้ายบันทึกเอาไว้ ในโพสต์ระบุว่า ไม่สนับสนุนความรุนแรงภายในโรงเรียนทุกกรณี น้อง ๆ จะมีปัญหาอะไรไม่สมควรตบตี รุมทำร้ายร่างกายกัน (ขอไม่ลงคลิป) ทางโรงเรียนและคุณครูควรรีบละลายพฤติกรรมความรุนแรงด่วน เหตุเกิดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 65 
 20 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารตามสั่ง ข้าง กศน.อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นร้านของ นส.จิ๊บ ป้องพันธ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.8 ต.ทุ่งฝน อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี แม่ของเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกรุมทำร้าย เพื่อไปติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้าที่ น.ส.จิ๊บ จะมาเปิดร้าน นางชุติมา ปราบมนตรี ผอ.โรงเรียนทุ่งฝนพิทยาคาร และคณะครู รวม 4 ท่าน ได้เดินทางไปที่บ้านพัก เพื่อไปมอบกระเช้าปลอบขวัญให้กับครอบครัวของเด็กนักเรียนหญิงที่ถูกรุมทำร้าย พร้อมกับพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและเด็ก

นส.จิ๊บ เปิดเผยว่า มีลูก 3 คน น้องโฟกัสเป็นลูกสาวคนโต อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2/2 โรงเรียนทุ่งฝนพิทยาคาร และมีลูกชายอีก 2 คน อายุ 8 และ 4 ขวบ ส่วนสามีไปทำงานอยู่ไต้หวัน เหตุเกิดวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ช่วงพักเที่ยงน้องโฟกัสถูกรุ่นพี่ ม.6 จำนวน 2 คน และ ม.4 จำนวน 2 คน รวม 4 คน เข้าไปรุมทำร้ายด้วยหมัดและเท้า ซ้ำยังถูกโทรศัพท์มือถือทุบที่ศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บ ขณะเกิดเหตุเพื่อนน้องโฟกัสได้บันทึกวิดิโอเอาไว้ได้ ต่อมาน้องโฟกัสจึงโทรศัพท์มาบอก ตนจึงรีบไปหาก่อนพาลูกไปโรงพยาบาล และเข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งฝน ทันที ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ไม่รู้จักกับรุ่นพี่ที่มารุมทำร้ายแม้แต่คนเดียว ไม่เคยคุยกันมาก่อน รุ่นพี่ที่รุมทำร้ายพูดแต่เพียงว่ามองหน้าทำไม ลูกสาวไม่เคยมีประวัติก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับใครเลย แต่กลับกัน รุ่นพี่กลุ่มนั้นมีประวัติใช้ความรุนแรงอยู่เป็นประจำ
“ตอนแรกไม่กล้าที่จะดูแม้แต่คลิป จึงให้น้องสาวเป็นคนดูก่อน พอได้ดูแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจ เห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกสาวของตัวเอง เมื่อเช้า ผอ.โรงเรียน ได้นำกระเช้ามาปลอบขวัญและพูดคุยแล้ว รู้สึกพอใจอยู่บ้าง แต่ยังติดใจกับ รอง ผอ.ผู้ชาย ที่พูดคุยกับน้องโฟกัสด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม พูดคุยในเชิงข่มขู่ ตนเองมองว่ายังไม่ได้รับความยุติธรรม หากไม่ร้องเรียนสื่อก็คงไม่มีการขยับ เรื่องเยียวยาก็ว่ากันไป ลงโทษทางวินัยก็ว่ากันไป ส่วนคดีความก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด”

นส.จิ๊บ เปิดเผยอีกว่า คิดไว้แล้วว่าสักวันหนึ่งลูกสาวจะมีเหตุต้องบาดเจ็บ ไม่ว่าเรื่องอุบัติเหตุหรือการทะเลาะวิวาท เห็นแต่ในภาพข่าวที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปีที่แล้วลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าในโรงเรียนมีการใช้ความรุนแรง มีการทะเลาะตบตีกันประจำ ช่วงแรกตอนไปโรงเรียนลูกสาวจะนั่งรถประจำทางจากบ้านไป แต่เมื่อลูกเห็นการตบตีกันบนรถ ก็ไม่กล้าขึ้นรถประจำทางอีกเลย ต้องนั่งรถจักรยานยนต์กับเพื่อนไปโรงเรียนแทน สงสารลูกสาวมากที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ลูกสาวมีร่องรอยฟกช้ำและบาดเจ็บหลายแห่ง โดยเฉพาะที่หน้าผากที่ปูดบวม ตอนนี้ลูกสาวก็ยังบ่นมาปวดศีรษะ แต่ต้องไปโรงเรียน เพราะต้องไปสอบ เรื่องที่เกิดขึ้นต้องรอถึง 4 วัน ก่อนที่จะกล้าเล่าให้พ่อเขาฟัง พ่อรู้เรื่องก็โกรธและสงสารลูกมากเช่นกัน
ด้าน นายปราโมทย์ ธัญญพืช รอง ผวจ.อุดรธานี นายกำธร วิเชษฐพงศ์ นายอำเภอทุ่งฝน และ ดร.วิทยา ประวะโข ผอ.สพม.อุดรธานี ได้เดินทางไปที่โรงเรียนทุ่งฝนพิทยาคาร เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีนางชุติมา ปราบมนตรี ผอ.โรงเรียนทุ่งฝนพิทยาคาร และคณะผู้บริหารร่วมให้ข้อมูลก่อนที่จะนำตัวเด็กนักเรียนที่ถูกทำร้ายและกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทำร้ายมาพูดคุยปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ได้ให้กลุ่มรุ่นพี่เอาสายสิญจน์มาผูกข้อมือให้กับรุ่นน้องที่บาดเจ็บ พร้อมกับกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรับปากว่าจะให้ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุ่งฝน ผอ.สพม.อุดรธานี และผู้บริหารโรงเรียนทุ่งฝนวิทยาคาร ได้เอาสายสิญจน์มาผูกข้อมือรับขวัญให้กับนักเรียนทั้งสองฝ่าย เนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจ ก่อนที่จะร่วมกันร้องมาร์ชโรงเรียนทุ่งฝนพิทยาคาร หลังจากนั้นก็แยกย้ายเข้าห้องเรียนตามปกติ

ข่าว/ภาพ-เศกสันติ กัลป์ยาณวิสุทธิ์  สำนักข่าวเนชั่น จ.อุดรธานี