
วันนี้ (17 ก.ค.65) ที่สำนักงานทนายรัชพล ศิริสาคร จ.นนทบุรี น.ส.หนูยา (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี และ น.ส.ตา (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ตัวแทนกลุ่มหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกผู้จัดการโรงงานแห่งหนึ่งหลอกคบซ้อนกว่า 12 ราย เดินทางเข้าพบทนายรัชพล ศิริสาคร เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับคดี หลังกลุ่มหญิงสาวผู้เสียหายทั้งนั้นทราบความจริง
จึงต้องการเอาเรื่องผู้จัดการโรงงานรายดังกล่าวแต่กลับถูกผู้จัดการโรงงานอ้างข้อกฎหมายว่า หากความจริงถูกเปิดเผยให้กลุ่มหญิงสาวดังกล่าวระวังจะถูกเมียหลวงของเขา ฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายในฐานะที่ตกเป็นเมียน้อย สร้างความทุกข์ใจให้กับหญิงสาวกลุ่มนี้ที่ถูกหลอกคบซ้อนตกเป็นเมียน้อยโดนไม่รู้ตัวมาก่อน ส่วนที่ตัดสินใจเดินทางมาพบทนายรัชพลนั้น เพราะเคยเห็นในเฟซบุ๊กทนายรัชพลว่า โพสต์ข้อความให้ความรู้เอาไว้ว่า หากถูกหลอกฟันฟรีมีสิทธิ์เรียกค่าเสียหายได้
โดย น.ส.ตา เปิดเผยว่า ตนกับผู้จัดการคนนี้เจอกันในโลกโซเซียลซึ่งเขาเป็นฝ่ายทักมาคุยก่อน จากนั้นก็เริ่มติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมาตั้งแต่ปี 62 จนกระทั่งปี 63 จึงตัดสินใจคบกันและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อนว่า ผู้ชายคนนี้จะมีภรรยาอยู่แล้ว เพราะในแต่ละวันที่ไม่ได้เจอกัน เขาจะวีดีโอคอลมาคุยด้วย นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนคนเดียวทุกวัน จนตนเชื่อใจ ตายใจสนิท และก็ไม่รู้มาก่อนอีกว่าในระหว่างที่คบกันนั้น เขาก็ยังมีผู้หญิงคนอื่นๆ คบซ้อนอยู่อีกรายคน
น.ส.ตา กล่าวว่า จนกระทั่งวันหนึ่งตนไปซึ่งเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับเขา ไปเห็นว่าเขาเข้าไปกดถูกใจเฟซบุ๊กผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งรูปเก่ารูปใหม่ของหญิงสาวคนนี้ ตนจึงตัดสินใจทักข้อความไปคุยกับหญิงสาวคนนี้ จึงทราบความจริงว่า ผู้จัดการรายนี้แอบคบหญิงซ้อนกับตน จึงช่วยกันติดตามตรวจพฤติกรรมต่างย้อนหลังในโซเซียล ก็ต้องตกใจหนักไปเมื่อในรูปที่เขาไปออกงาน ไปทำงานหรือไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ นั้น จะมีหญิงสาวอีกคนที่ปรากฎตัวอยู่ในภาพเป็นประจำด้วย เมื่อสอบถามเขาไปเจาอ้างว่าเป็นพี่สาว แต่ความจริงก็คือเมียหลวงของเขาเอง จึงทำให้ตนต้องยุติความสัมพันธ์ลง เขาเหมือนพวกล่าแต้มล่าผู้หญิงในโลกโซเซียลเลย ทั้ง ๆ ที่อายุก็ไม่น้อยแล้ว
ทางด้าน น.ส.หนูยา (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกหลอกคบซ้อนเปิดเผยว่า หลังจากรู้จักชายคนนี้ผ่านทางโลกโซเซียลมาสักระยะ เขาก็จะตามกดไลก์ ส่งหัวใจหรือดอกไม้ทางข้อความมาให้ทุกวัน รวมทั้งวิดีโอคอลหาในช่วงเวลา 3-4 ทุ่ม ในห้องนอนเป็นประจำทุกวันเช่นกัน ทำให้ตนเชื่อว่าเขาเป็นคนโสดจริง จึงได้มีการนัดเจอกันในที่สุด ก่อนจะมีความสัมพันธ์กันเพราะเห็นว่าไม่ได้เสียหายอะไร จนกระทั่งต่อมาเมื่อตนได้รับข้อมูลจากกลุ่มหญิงสาวที่ทักข้อความมาบอกความจริงให้ฟัง ตนจึงว่าชายคนนี้ได้หลอกคบซ้อนหญิงสาวอยู่อีกประมาณ 12 คน โดยที่ตัวเขาเองก็ยังมีภรรยาอยู่เป็นตัวเป็นตน ด้วย หลังตนทราบความจริงจึงได้คาดคั้นเอาเรื่องกับชายคนนี้ แต่ถูกชายคนนี้ทั้งหว่านล้อม ทั้งข่มขู่ว่า หากตนนำเรื่องนี้ไปเปิดเผยจนเป็นข่าว ให้ระวังตัวด้วยว่าจะถูกทางฝ่ายเมียหลวงของเขาฟ้องดำเนินคดีเรียกค่าเสียหายจากตนที่ตกเป็นเมียน้อยได้ ทำให้ตนกับกลุ่มหญิงสาวที่ถูกชายคนนี้หลอกคบซ้อนอีก 12 คน ทั้งกลุ่มไลน์เพื่อปรึกษาหารือกันเพราะทุกข์ใจหนักมาก
จนกระทั่งมีคนในกลุ่มไปเห็นว่าทนายรัชพลเคยโพสต์ให้คำปรึกษาว่า หากถูกหลอกฟันฟรีมีสิทธิ์ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ จึงตัดสินใจเดินทางรวมตัวกันมาปรึกษาข้อกฎหมายทั้งที่พวกตนจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย หรือฝ่ายเมียหลวงจะมีสิทธิ์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากพวกตน เพราะพวกตนเองก็ไม่รู้ตัวรู้สถานะมาก่อนว่า เมื่อมาคบกับขายคนนี้จะตกอยู่ในสถานะเมียน้อยด้วยกันทั้งหมด
ทางด้านทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่า หญิงสาวทั้งหมดตกอยู่ในฐานะผู้เสียหายเพราะถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นโสด ไม่มีภรรยา ไม่ได้สมัครใจที่จะคบซ้อนด้วย ดังนั้นในทางกฎหมายแล้วกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มนี้ตกอยู่ในฐานะผู้เสียหาย หากทางภรรยาหลวงจะฟ้องร้องดำเนินคดีมาก็ไม่เข้าข้อกฎหมาย แต่เมื่อทราบความจริงแล้วจะต้องยุติความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ไม่กลับไปคบต่อหรือมีความสัมพันธ์อีกต่อไป เพื่อกันตัวเองไม่ให้ถูกกล่าวหาได้ รวมทั้งต้องไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานอีกทาง