ชายวัย 63 ปี ขับรถย้อนศรไกลกว่า 4 กม. มอบตัวสารภาพไม่มีเจตนา

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอ เป็นภาพรถยนต์กระบะคันหนึ่ง ที่วิ่งสวนเลนมาในถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ฝั่งขาล่อง บางครั้งก็ชะลอ บางครั้งก็ขับด้วยความเร็ว ในขณะที่มีผู้ที่ใช้รถใช้ถนนขับมาในเส้นทางปกติต้องขับหลบหลีกให้ จนผู้ที่ถ่ายคลิปต้องตะโกนเตือน รวมทั้งมีรถบรรทุกน้ำมันคันหนึ่งขับสวนมาและได้บีบแตรเสียงดังสนั่น แต่รถยนต์กระบะคันดังกล่าวก็ไม่สนใจ พร้อมระบุข้อความว่า เป็นไงวะ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว 

หลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวเผยแพร่ไปไม่นาน ปรากฎว่ามีการแชร์ออกไป และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก เช่น สงสัยเพิ่งกลับจากต่างประเทศก็เลยมีอาการหลงเลนนิดหน่อย, พ่วงก็ไม่สอยให้หน่อยเลย, มันนึกว่าทะลุมิติมามั๊ง, สงสัยอยากไปรับใช้ยมทูตแล้ว, น่าเจอะสิบล้อบวกสักครั้ง, เค้าหลงรึว่ารีบอันตรายจัง” เป็นต้น ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันนี้คนขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ที่ได้ขับสวนเลนไกลกว่า 4 กิโลเมตร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บึงสามพัน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทราบชื่อต่อมาว่าคือ นายบรรจง พึ่งตน อายุ 63 ปี อยู่ ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ให้การว่า ในวันเวลาดังกล่าว ตามที่มีคนถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ตนได้ขับรถจาก ต.ท่าด้วง อ.หนองไผ่ เพื่อมาหาหมอที่โรงพยาบาล เนื่องจากป่วยหลายโรค และมีอาการหลงลืม และหลังกลับจากโรงพยาบาล ซึ่งมีอาการงงๆ เบลอๆ จึงได้ขับรถสวนเลนมาไกลหลายกิโล จนมานึกได้ตอนถึงหน้าวัดบ้านโภชน์ จึงได้ขับรถกลับเข้าทางปกติ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะขับสวนเลน แต่อย่างใด และอยากขอโทษสังคม ขอโทษผู้ใช้รถใช้ถนนในวันนั้น 

พ.ต.ท.เชื้อ กองมนต์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บึงสามพัน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายบรรจงทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาหาหมอที่โรงพยาบาล เนื่องจากป่วยหลายโรค และมีอาการหลงลืม หลังจากกลับจากโรงพยาบาล ซึ่งยังมีอาการงงๆ เบลอๆ จึงได้ขับรถสวนเลนอย่างในคลิปจริง จึงได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ แต่ไม่พบและได้แจ้งข้อหา ขับรถไม่ไปตามทิศทางที่กำหนด(ย้อนศร) ปรับเป็นเงิน 500 บาท 

ภาพ/ข่าว - อารีย์ สีแก้ว สำนักข่าวเนชั่น จ.เพชรบูรณ์