เปิดใจเจ้าของผลงานถ้วยรางวัล "THE MATCH" ดีไซน์หนึ่งเดียวในโลก

"สุเชาว์ เภาพงษ์" เจ้าของผลงานถ้วยรางวัล "THE MATCH" ศึกแดงเดือด เปิดใจกับทีมข่าวเนชั่นออนไลน์ที่แรกและที่เดียว ถึงแรงบันดาลใจในการทำถ้วยรางวัลในศึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยไปไกลระดับโลก ว่า ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมชมการแข่งขันพร้อมครอบครัว โดยรู้สึกภูมิใจและอมยิ้มเมื่อเห็นนักเตะชูถ้วยที่ได้เป็นผู้จัดทำขึ้น  ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นจริง เนื่องจากไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้จัดงานในครั้งนี้

"จุดเริ่มต้นแรงบันดาลใจ เริ่มจากบริษัท "Advice" ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงานนี้ ได้ติดต่อให้ออกแบบเคสคอมพิวเตอร์เพื่อเฉลิมฉลองการแข่งขันในครั้งนี้ ตนจึงคิดถึงภาพสนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยนำฮาร์ดแวร์ทั้งหมดบรรจุลงไปในฐานเคสซึ่งทำจากอะคริลิค และขึ้นรูปร่างสนามและถ้วยรางวัลด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยเคสดังกล่าวสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งตนทำเองคนเดียวทั้งหมด ใช้เวลาเพียง 1 เดือน ขนาดค่อนข้างใหญ่และหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นดีไซน์หนึ่งเดียวในโลก" 

"สุเชาว์" ยอมรับว่า ไม่ได้จบด้านคอมพิวเตอร์หรือออกแบบ แต่อาศัยความชอบและความมุ่งมั่น โดยเริ่มจากความอยากได้เคสคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีสตางค์ซื้อ เลยหาซื้อไม้พาเลสมาทำเคส ก่อนนำภาพไปลงในเว็บไซด์ จนมีคนแชร์เป็นจำนวนมากรวมถึงสื่อต่างประเทศ จนกระทั่งมีบริษัทผู้ผลิตด้านไอทีชื่อดังระดับโลกชื่นชอบ จึงทาบทามตนไปแข่งขันในเวทีโลกจนได้แชมป์ โดยตนมองว่า "พรแสวง" สำคัญกว่า "พรสวรรค์"

สำหรับอาชีพนักตกแต่งคอมพิวเตอร์ หรือ "Modder" มีหน้าที่ตกแต่งเคสคอมพิวเตอร์ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งมีไม่ถึง 10 คน ในประเทศไทย ซึ่งหากใครต้องการเดินตามรอย ขอให้รู้จริงและมีความมุ่งมั่น สามารถทำได้อย่างแน่นอน ส่วนใครจะนำดีไซน์นี้ไปใช้สามารถทำได้ ไม่ได้จดลิขสิทธิ์ อยากให้มีคนเข้ามาในอาชีพนี้เยอะๆ

ส่วนกระแสดราม่าในโลกโซเชียลกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงดีไซน์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานจริงรวมถึงการปรากฏภาพทีมแมนยูฯ ทิ้งถ้วยไว้ที่ห้องแต่งตัวโดยไม่เอากลับไปเนื่องด้วยน้ำหนักที่มากและขนาดที่ใหญ่เกินไปนั้น "สุเชาว์" ยอมรับว่า ถ้วยดังกล่าวอาจมีขนาดใหญ่เกินไปจริง แต่ต้องการบรรจุฮาร์ดแวร์ทั้งหมดให้ปรากฏอยู่บริเวณสนามจึงออกมาในรูปแบบดังกล่าว และไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองคนที่วิพากษ์วิจารณ์ พร้อมน้อมรับและรู้สึกภูมิใจกับผลงานที่เป็นฝีมือของคนไทย สามารถสร้างชื่อเสียงไปไกลระดับโลกได้