สืบภ.2ทลายโกดังสินค้าหลังหลอกขายโทรศัพท์เด็กหญิงวัย 14 ปีแต่กลับส่งแฟ๊บ
สืบภาค2 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกทลายโกดังสินค้าออนไลน์ หลังเด็กหญิงวัย 14 ปี สั่งซื้อโทรศัพท์แต่กลับได้เป็นผงซักฟอก ชี้พฤติการณ์คนร้ายโกงหวังนำเงินมาเปลี่ยนเป็นเซ็กส์ทอยจำหน่ายแทน เตรียมล่า 2 ผัวเมียมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
9 กรกฎาคม 2565 จากกรณีมีผู้เสียหาย คือ ด.ญ.เอ นามสมมุติ อายุ 14 ปี ได้สั่งซื้อโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่ง ผ่าน ในราคา 6,579 บาท จากร้านค้าชื่อ Xiaomi store th ในแอ็พพลิเคชั่นชื่อดัง ต่อมาเมื่อได้รับสินค้าปรากฏว่าไม่ใช่โทรศัพท์ แต่เป็นผงซักฟอก จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.ภ.2 ได้สืบสวนพบว่าเคยมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ถูกหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 วิเคราะห์แผนประทุษกรรม (criminal profiling) ซึ่งต่อมาได้สืบสวนร่วมกันจนพบว่ามีโกดังตั้งอยู่บ้านเลขที่ 55/688 ม.2 ต.ศรีษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ได้สร้างความเดือดร้อนต่อ ด.ญ.เอ เนื่องจากใช้เงินเก็บในการซื้อโทรศัพท์เพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้มีความพร้อมในการรับมือาชญากรรมที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วภายใต้ยุค 5G และให้กวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน
จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ในฐานะหน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT) นำกำลังเข้าทำการตรวจค้นโกดังดังกล่าว โดยสามารถจับกุมตัว นายกันต์กวี หรือ ตี๋ อิ่นทะจักร์ อายุ 23 ปี เป็นชาว จ.เชียงใหม่
ในข้อหา "เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร หรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก , ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่าวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น , เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด"
ขณะเดียวกัน สามารถตรวจยึดของกลางได้ 5 รายการ คือ
1.คอมพิวเตอร์ All in one จำนวน 1 เครื่อง (พบข้อมูลรายการสินค้าที่หลอกลวงขายโทรศัพท์ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเดือนละกว่า 1,000 รายการ)
2.อุปกรณ์เซ็กส์ทอย ตรวจสอบเบื้องต้น กว่า 10,000 ชิ้น
3.เอกสารการสั่งซื้ออุปกรณ์เซ็กส์ทอยนำเข้าจากประเทศจีน (ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบเอกสารการนำเข้าผ่านกรมศุลกากร)
4.กล่องพัสดุ บรรจุอุปกรณ์เซ็กส์ทอย เพื่อรอจัดส่ง 25 กล่อง
5.อุปกรณ์สำหรับห่อพัสดุหลายรายการ
ขณะเดียวกัน จากการสืบสวนพบว่า นายซัน และ น.ส.เหมย สองสามีภรรยา ที่เป็นตัวการในการหลอกลวงขายโทรศัพท์ แล้วนำส่งเป็นผงซักฟอก เพื่อรวบรวมเงินทุนจนพอ แล้วเปลี่ยนมาจำหน่ายอุปกรณ์เซ็กทลอยออนไลน์ โดยใช้โกดังแห่งนี้เป็นที่เก็บ และแพ็กสินค้า ส่วนผู้ถูกจับมีหน้าที่เฝ้าโกดังสินค้า และชุดสืบสวน จะได้ออกหมายจับดำเนินคดีสองสามีภรรยา ในข้อหา "ร่วมกันพยายามฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ฯ" โดยจะนำทุนที่ได้จากการฉ้อโกงหลอกขายโทรศัพท์ มาเป็นทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์เซ็กส์ทอยเหล่านี้ และประกาศขายทางแอ็พพลิเคชั่นชื่อดัง โดยตรวจพบพัสดุที่รอจัดส่งบางกล่องพบว่า มีการจัดส่งให้กับเด็กเยาวชนที่อายุเพียง 14 ปี อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดย พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า มิจฉาชีพพวกนี้ มักไม่คิดทำมาหากิน ชอบรวยทางลัด โกงแม้กระทั่งเด็ก เยาวชน โดยสร้างความเสียหายไปทั่วประเทศ คนพวกนี้มักเริ่มจากธุรกิจสีดำ และค่อยๆฟอกเป็นสีเทา สุดท้ายหวังฟอกเป็นสีขาว และมีหน้ามีตาในสังคม ดังนั้น จะปล่อยคนเหล่าไว้ไม่ได้ เพราะจะเป็นอันตรายต่อสังคมอย่างยิ่ง