เอกภพ รุดช่วย ด.ญ. ที่อุบลฯ ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนมาราธอน 8 ปี บังคับเรียกผัวแทนพ่อ

วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ จ.อุบลราชธานี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อม นายปิยะ วงศ์คำเหลา สจ.อุบลราชธานี เดินทางไปยัง สภ.พิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี  เพื่อพา ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พร้อมมารดา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ ศรีบุตตะ ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร ให้ดำเนินคดีกับ นายบี (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พ่อแท้ ๆ ของ ด.ญ.เอ หลังก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เอ มายาวนานกว่า 8 ปี ตั้งแต่ 7 ขวบจนถึงปัจจุบัน โดยบังคับห้ามไม่ให้ ด.ญ.เอ  เรียกตนเองว่า "พ่อ" แต่ให้เรียกว่า "ผัว" แทน 
 

นางโบ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี มารดา ด.ญ.เอ  กล่าวว่า ตนกับนายบีมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวอายุ 15 ปี และ ลูกชาย อายุ 11 ปี โดยตนแยกทางกับนายบี ตั้งแต่ลูกสาว อายุ 6 ขวบ โดยตนนำลูกทั้ง 2 คน ไปให้พ่อกับแม่ซึ่งเป็นตากับยายของเด็กเลี้ยง ก่อนมาทำงานที่กรุงเทพ

ต่อมานายบีได้ไปหาพ่อกับแม่ตน และขอรับลูกสาวไปเลี้ยงเอง ตั้งแต่ลูกสาวอายุ 7 ขวบ ตลอดเวลาที่ลูกสาวอยู่กับนายบี ตนจะส่งเงินให้ลูกสาวตลอด บางครั้งลูกสาวก็จะโทรศัพท์มาขอเงินกับตา โดยตาจะขับรถพาลูกชายของตนเอาขนมและกับข้าวไปให้ลูกสาวตน ที่ห้องเช่าของนายบีซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของตาไปประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นประจำ ซึ่งตลอดเวลาตนจะคุยไลน์กับลูกสาวคอยถามเรื่องการเรียนตลอด  
 

นางโบ กล่าวว่า กระทั้งช่วงเช้าวานนี้ (6 ก.ค. 65) ตนทักไลน์ไปคุยกับลูกตามปกติ แต่ลูกกลับตอบมาว่าหนูไม่ไหวแล้วแม่ หนูไม่ไหวแล้ว ตนจึงค่อย ๆ ถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นเล่าให้แม่ฟังเดี๋ยวแม่จะช่วย ลูกจึงยอมบอกว่าถูก นายบี อดีตสามี ที่เป็นพ่อแท้ ๆ ข่มขืนกระทำชำเราตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนถึงปัจจุบัน และเริ่มมีพฤติกรรมหนักขึ้นเรื่อย ๆ บางวันห้ามไม่ให้ลูกสาวไปโรงเรียนเพื่อที่จะข่มขืนลูก เวลาลูกสาวไปเรียนหนังสือกลับบ้านช้าเพียง 5 นาที จะถูกนายบี ตบตี เพราะความหึงหวง

ตนจึงถามว่าทำไมถึงไม่บอกแม่ตั้งแต่แรก ลูกสาวตอบว่า ถูกพ่อขู่ว่าหากไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย และไม่มีใครมาช่วยได้เนื่องจากเป็นเรื่องผัวเมีย ลูกจึงกลัวไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง ซ้ำยังบังคับให้ลูกสาวเรียกตัวเองว่า "ผัว" ห้ามเรียกว่า "พ่อ" ตนได้ฟังรู้สึกช็อคและตกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น 

หลังลูกสาวเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ตนจึงได้เรียกลูกชายมาสอบถามว่าระหว่างที่ไปนอนห้องเช่ากับพ่อ เคยเห็นพ่อทำอะไรพี่สาวหรือไม่  ปรากฎว่าลูกชายบอกว่า เห็นตลอด เห็นประจำ โดยนายบี จะข่มขืนลูกสาวต่อหน้าลูกชาย โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น และจะข่มขู่ห้ามไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด ลูกชายเล่าให้ฟังว่า เคยเห็นพี่สาวถูกตบตีจนเลือดกบปาก จึงหวาดกลัวไม่กล้าพูกให้ใครฟัง

หลังจากตนได้ฟังเรื่องทั้งหมด จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือมายัง เพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากเห็นว่า เป็นเพจที่คอยช่วยเหลือชาวบ้านในทุก ๆ เรื่อง ทั้งเรื่องโควิด และชาวบ้านถูกข่มเหงรังแก โดยตนได้โทรศัพท์สายตรงไปยัง นายเอกภพ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอให้พาลูกสาวเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตสามีให้ถึงที่สุด 

ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า หลังทราบเรื่องตนได้ประสานไปยัง ผกก.สภ.พิบูลมังสาหาร เพื่อพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีในวันรุ่งขึ้นทันที เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ หากเราปล่อยเวลาผ่านไป 1 วัน เท่ากับเราต้องปล่อยให้เหยื่อเสี่ยงที่จะถูกข่มขืนไปอีก 24 ชั่วโมง ดังนั้นเรื่องนี้จึงรอไม่ได้ ตนได้สั่งให้ทีมงานลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทันที

นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง นางแรมรุ่ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขอให้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ - นักจิตวิทยา ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย โดยมีนายชนันนัทธ์ ธนภัทร์จิระโชติ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี เป็นตัวแทนเข้าร่วมการสอบสหวิชาชีพเด็ก รวมถึงยังเตรียมประสาน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อพาผู้เสียหายเข้าพบ ขอรับการเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม อีกด้วย 

ซึ่งเบื้องต้นสำหรับข้อหาของนายบี นั้นคือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต