สตม.แจง นทท.เข้าไทยแล้ว 2.7 ล้านคน ทยอยเพิ่มต่อเนื่อง
สตม. แจงนทท.เข้าไทย ตั้งแต่ต้นปีกว่า 2 ล้านคนมาเลเซีย อันดับหนึ่ง มั่นใจ การยกเว้นกรอกใบตม. 6 ชั่วคราวไม่เป็นช่องว่างหลบหนี เพราะกม.อื่นตรวจสอบได้ พร้อมสั่งเร่งเช็ค “OneCoin” เจ้าแม่แชร์ลูกโซ่คริปโต หลัง FBI ตั้งค่าหัว ประสานสายการบิน พกกัญชาจากไทย มีความผิดปลายทาง
พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( ผบช.สตม. ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ พบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ บริติช และอเมริกา ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-4 กรกฎาคม มีผู้เดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 162,383 คน เดินทางออก 132,409 คน ซึ่งมากขึ้นกว่าเดือนมิถุนายนเกือบร้อยละ 50 โดยเดือนมิถุนายนทั้งเดือน มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 869,140 คน
ทั้งนี้ สถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง 4 กรกฎาคม มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นตามลำดับ รวมเดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว 2,694,708 คน และเดินทางออก 2,581,762 คน ส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวเป็นหลัก
ส่วนกรณียกเว้นการกรอกข้อมูลในใบ ตม.6 เป็นการชั่วคราวสำหรับชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศ เป็นการยกเลิกชั่วคราว เพื่อลดความแออัดที่สนามบิน ซึ่งการกรอกใบ ตม.6 เป็นเหมือนด่านแรกในการแสดงตัวก่อนเข้าประเทศเท่านั้น
“มั่นใจ ไม่เป็นปัญหาหรือช่องว่างหลบหนีเข้าประเทศ ซึ่งหลังจากยกเว้นการกรอก ใบ ตม.6 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีการประเมินอีกครั้ง เนื่องจาก ยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายเข้าเมือง ตรวจสอบและคัดกรองชาวต่างชาติอยู่แล้ว เช่น การกำหนดให้ชาวต่างชาติ ต้องรายงานตัวภายใน 90 วัน หรือการกำหนดให้ผู้ประกอบการ เจ้าของที่พัก แจ้งการเข้าพักของชาวต่างชาติภายใน 24 ชั่วโมง”
ส่วนกรณี FBI ตั้งค่าหัว Ruja Lgnatova ผู้ก่อตั้ง OneCoin ฉายาเจ้าแม่แชร์ลูกโซ่คริปโตรายใหญ่ที่สุดของโลก เป็นเงิน 3.5 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ชี้เบาะแส และนำไปสู่การจับกุม พลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีการประสานกับกองการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของบัญชีบุคคลเฝ้าระวังอยู่แล้ว พร้อมตรวจสอบชาวต่างชาติ ในลักษณะอยู่เกินกฎหมายกำหนด หรือ โอเวอร์สเตย์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการติดตามตรวจสอบกรณีนี้อย่างใกล้ชิด
ส่วนกรณีทางการบาหลี จับกุมนักศึกษาบราซิล พกกัญชาจากประเทศไทย ไปยังประเทศอินโดนีเซีย พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า กรณีนี้ นักท่องเที่ยวต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อกฎหมายก่อนออกเดินทาง เนื่องจาก แม้กัญชา จะไม่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่หลายประเทศยังมีความผิด ตั้งแต่โทษปรับ จำคุก ไปจนถึงโทษประหารชีวิต ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสายการบิน และการท่าอากาศยาน ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เมื่อไปถึงประเทศปลายทาง ส่วนชาวต่างชาติ ที่นำกัญชาเข้าไทย ต้องดูรายละเอียดว่าเป็นความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ หรือไม่