“ทักษิณ-เพื่อไทย”โว ไม่หวั่นสูตรหาร 500 เชื่อ ขั้วประชาธิปไตยเกิน 300 เสียง!

จากกระแสข่าวแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้ประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ภายหลังการประชุมครม. โดยมีข้อสรุปเกี่ยวกับการลงมติที่ประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 6 ก.ค. 65 ต่อร่างพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา23 ที่มีสาระสำคัญ การคำนวนคะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อ

ล่าสุดมีแนวโน้มสูง จะใช้วิธีคำนวนโดยหาร 500 แทนการคำนวณโดยหาร 100 

วานนี้ (5 ก.ค. 2565) เพจแคร์คิดเคลื่อนไทย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม ที่ได้จัดรายการในคลับเฮ้าส์ ตอนหนึ่งว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง พรรคก้าวไกลก็อาจจะได้มากขึ้น แต่ยังไงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยก็รวมกันได้เกิน 300 อยู่ดี

“มันอยู่ที่แนวคิดว่าเพื่อไทยจะวางตัวเองว่า ได้กี่เสียง สมมติว่า มีโหวตเตอร์ 30 ล้านคน หาร 500 ก็คือ 6 หมื่นเสียง สมมติว่า พรรคเพื่อไทย ได้15 ล้านเสียง ซึ่งไม่น่าไกลเกินฝัน แต่ได้ส.ส.เขต มาแล้ว 200 เอา 6 หมื่นหาร 15 ล้าน ได้ 250 ที่นั่ง ได้ปาร์ตี้ลิสต์อยู่ 50 ก็ถือว่าไม่ขี้ไก่นะ แต่อยู่ที่กรอบคิดนะ เขาต้องคิดเอง ส.ส.เขตได้ยังไง แต่ผมว่าคงไม่น่ามีปัญหา”

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า

สมมติถ้าเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง ก้าวไกลก็อาจจะได้มากขึ้น แต่ยังไงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยเอามารวมกันก็ได้เกิน 300 อยู่ดี ฝั่งรัฐบาลผมให้เต็มที่ 200 เลย นี่ให้เต็มที่แล้วนะ อย่าหาว่าผมดูถูก แต่ผมถูกจริงๆ ดีไม่ดี ไม่ถึง 200 ด้ว ย

 ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความว่า

“เหลือเชื่อ!! ประเทศนี้เป็นอะไรกันหมดแล้ว ข่าวลือทั้งวันกล่าวหา นายกฯ ว่ามีการสั่งการให้กระทำการฝ่าฝืน รธน.มาตรา 91 ด้วยการผลักดันสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500 ถือเป็นการกระทำที่จงใจฝ่าฝืน รธน. ถ้าจริงก็เป็นอย่างดร.วิษณุพูด ถือว่าประเทศนี้วิปริตไปแล้ว ไม่เชื่อจริงๆ”

ประเด็นนี้ สอดคล้องกับความเห็นของ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

ส่งสัญญาณให้แกนนำในขั้วพรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว. สนับสนุนใช้สูตรหาร 500 ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ตนไม่รู้ว่าเท็จจริงอย่างไร ซึ่งกฎหมายต่างๆ ในรัฐสภามีขั้นตอนและหลักอยู่ ไม่ใช่นึกคิดจะเอาอะไรก็เอา ถามว่าเห็นแย้งกับรัฐธรรมนูญยังคิดจะเอาอยู่อีกหรือ และมีเจตนาอะไร หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการสืบทอดอำนาจต่อ

ส่วนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 นั้น สืบเนื่องจากที่มีการแก้ไขกำหนดบัตรเลือกตั้งให้เป็นบัตร 2 ใบแล้ว ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 กำหนดไว้ชัดเจนว่าคะแนนที่เลือกพรรคการเมืองต้องเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันโดยตรง

ดังนั้น มาตรา 91 คือตัวต้นของการใช้สูตรหาร 100 เรื่องนี้เราไม่ได้คิดเอง เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ร่าง ก่อนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เป็นร่างหลักของรัฐบาล และก็เป็นหลักการของรัฐสภา

ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยึดถือตามกฎหมาย และข้อบังคับการประชุมของรัฐสภา อย่าไปยึดถือว่าตัวเองจะมีอำนาจตลอดไป หรือให้กลุ่มพวกพ้องพรรคการเมืองที่ช่วยเหลือตัวเอง

เมื่อถามว่า ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นการดับฝันแลนด์สไลด์ของพรรค พท.หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า หากประชาชนเขาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จะไปดับฝันเขาไม่ได้ ต่อให้จะใช้วิธีการอะไรกับประชาชนเขาก็เลือก ยิ่งไปใช้วิธีการที่ไม่ชอบมาพากลประชาชนเขาก็รู้ทัน ยืนยันว่าไม่มีใครกำหนดเรื่องแลนด์สไลด์ได้นอกจากประชาชน ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ อย่าไปหลงทางกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนเลย

“หลักการเราต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ไม่ใช่มีพรรคการเมือง 20 พรรคแล้วต้องมาเลี้ยงกล้วยกันแบบนี้ เสียภาพพจน์หมดเลย พล.อ.ประยุทธ์ ชอบแบบนั้นหรือ ทำไมไม่ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง เพื่อทำให้ประเทศชาติเดินหน้าไปอย่างสง่างาม” 

ถามต่อว่า ท่าทีของฝ่ายค้านจากนี้จะเป็นอย่างไร ?

นายสมคิด กล่าวว่า เอาจริงๆ ฝ่ายค้านก็ต้องสู้ แม้ว่าจะเป็นเสียงข้างน้อย ถ้ารัฐสภาแห่งนี้เอากฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญออกมาแบบนี้มันใช่หรือทั้งๆ ที่รู้ว่า ขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เสียงข้างมากในสภาทำแบบนี้เพื่ออะไร เรื่องนี้อย่างไรก็ถึงศาลรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องมีใครไปร้อง