จากกรณีข้อถกเถียงในโลกโซเชียลหลังจากเพจเฟซบุ๊ก “องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี” โพสต์ประกาศมติยกเลิกพิธีกรรม “หมอบกราบ” ภายในพิธีงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัย โดยทางเพจ ระบุข้อความว่า ยกเลิกการหมอบกราบ งานพิธีไหว้ครู/บายศรีสู่ขวัญ โดย “ยกเลิกการหมอบกราบ” เปลี่ยนเป็นการ “ไหว้” แทน
“องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มีนโยบายส่งเสริมความเสมอภาค สิทธิ ความเท่าเทียม ที่แฝงไปด้วยความเคารพ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การหมอบกราบที่สะท้อนถึง ระบบไพร่ทาส ในสังคมไทยเพราะคนทุกคนมีคุณค่าเท่าเทียมกัน ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน”
หลังประกาศดังกล่าวถูกเผยแพร่ สมาชิกโซเชียลเสียงแตกเป็น 2 ฝ่าย บางส่วนสนับสนุนแนวความคิดยกเลิก "หมอบกราบ" แต่อีกฝ่ายมองว่า ควรรักษาวัฒนธรรมอันดีงามเอาไว้
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา โลกโซเชียลได้เกิดข้อถกเถียงกันขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมีการเผยแพร่ภาพการจัดพิธีไหว้ครูของมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บางคณะยังมีการหมอบกราบอยู่ ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนได้แชร์ภาพพิธีไหว้ครูของโรงเรียนต่าง ๆ ยังคงการหมอบกราบเอาไว้ รวมถึงโรงเรียนนานาชาติบางแห่งด้วยเช่นกัน จนชาวเน็ตเกิดการเปรียบเทียบเทียบและถกเถียงกันถึงการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมไทย
ขณะที่เพจดังอย่าง “ลองวิเคราะห์ดู” ก็ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้ว่า “การหมอบกราบจริงๆนั้นทำได้ครับ มันคือสิทธิ์ของบุคคล ที่อยากกราบใครก็ได้ ไม่ใช่เรื่องที่แย่อะไร สิ่งที่แย่คือการบังคับต่างหาก ส่วนการยกเลิกหมอบกราบในพิธีไหว้ครูนั้น น่าจะด้วยเหตุที่ว่า พิธีเหล่านี้มันกึ่งแกมบังคับ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าใครอยากกราบใครไม่อยากกราบ ใครอยากเข้าร่วมไม่อยากเข้าร่วม? การยกเลิกก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องโวยวาย เพราะมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ส่วนใครไคร่จะกราบ เพราะอยากแสดงความเคารพนับถือ คุณก็หาเวลาไปทำเอาครับ บางคนกราบพ่อกราบแม่ หรือผู้มีพระคุณใดๆ อันนี้ไม่น่ามีใครมายุ่งเกี่ยวกับคุณได้ ปล. เรื่องไพร่ ผมไม่มีความเห็น มันปัจเจกมากๆแต่ละคนมองไม่เหมือนกันผมออกความเห็นและสนใจแค่เรื่อง การกราบไหว้ไม่ควรมาในรูปแบบกึ่งแกมบังคับ”