svasdssvasds
logo-pwa

เพิ่ม nation online

ลงในหน้าจอหลักของคุณ

ติดตั้ง
ปิด
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กฟน."ขานรับนโยบายนายกฯ มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย"ไฟไหม้สำเพ็ง"

29 มิถุนายน 2565

กฟน. ขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือเยียวยา มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพลิงไหม้  พร้อมร่วมประชุมแก้ปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากเหตุเพลิงไหม้บริเวณสำเพ็ง เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  มีความห่วงใยผู้ที่ได้รับผลกระทบ และได้นำข้อสั่งการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเยียวยา ดูแลผู้ประสบภัยและแก้ปัญหาระยะยาว โดยสั่งให้การไฟฟ้านครหลวงลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมจ่ายเงินเยียวยาประชาชนเป็นการด่วน

 

 พร้อมทั้ง นัดประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กฟน กสทช ผู้ประกอบการสื่อสาร เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกัน และแก้ปัญหาในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2565 ทั้งเรื่องการช่วยเหลือ รับฟังสถานการณ์  แผนงาน และมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

 

ความคืบหน้าล่าสุด (28 มิถุนายน 2565) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการธุรกิจ การไฟฟ้านครหลวงและโฆษก MEA ได้ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับกลุ่มร้านค้ารถเข็นซึ่งได้แจ้งความและประเมินค่าเสียหายในขณะเกิดเหตุไว้ ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 3 ราย ได้แก่ นาย ลำไพร ขาววงศ์ จำนวน 17,000 บาท นางสาวสมใจ โสพิษ จำนวน 6,000 บาท และนางแพง อรสาม จำนวน 13,000 บาท

 

โดยมี พลตำรวจตรีสรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอก นนท์ นุ่มบุญนำ รักษาการผู้กำกับการ สน.จักรวรรดิ ช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้กลุ่มร้านค้า ณ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ

 

โฆษก MEA กล่าวเพิ่มเติมว่า การไฟฟ้านครหลวงขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และได้ดำเนินมาตรการเยียวยาเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ประสบเหตุได้รับความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยไม่รอกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน

 

ล่าสุด นอกจากผู้เสียหายในกลุ่มร้านค้ารถเข็นแล้ว ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อให้ความช่วยเหลือกับผู้ได้รับผลกระทบในกลุ่มอื่น ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่ สามารถดำเนินการได้และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ  

 

ขณะที่ด้านกระบวนการทางกฎหมาย ยังต้องรอผลการตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และมูลค่าความเสียหาย เพื่อให้ความเป็นธรรมสูงสุดต่อผู้ได้รับผลกระทบ  

 

โฆษก MEA ยืนยันการไฟฟ้านครหลวงจะปรับปรุงแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์สูญเสียเกิดขึ้นอีก โดยมีมาตรการทบทวนแผนการบำรุงดูแลรักษาอุปกรณ์ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ นำนวัตกรรมการแจ้งเตือนเหตุสำหรับหม้อแปลงไฟฟ้ามาใช้เพิ่มเติมจากระบบเดิมที่มีอยู่  พร้อมเร่งตรวจสอบดูแลระบบไฟฟ้ารวมถึงจุดเสี่ยงต่าง ๆ และจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน

 

 " MEA มีความพร้อมดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ให้มีความเพียงพอ มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Line : MEA Connect, Twitter : @mea_news, Instagram :  meafanclub และศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130" นายจาตุรงค์ฯ กล่าว