svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ตร.ปคม." เร่งพิสูจน์ทราบเหยื่อ"ปิยบุตรคอสเพลย์อวตาร"เตรียมเอาผิดเพิ่ม

26 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจ ปคม. เร่งพิสูจน์ทราบตัวเหยื่อ “ปิยบุตรคอสเพลย์อวตาร” เตรียมประสาน พม.- สหวิชาชีพ - อัยการ ระดมสมองถกข้อกฎหมายเอาผิดเพิ่ม เผยความแตกต่างกฎหมายคุ้มครองเด็กไทย-นอก เตรียมยกเป็นตัวอย่างผลักดันสู่กฎหมายสากล

26 มิถุนายน 2565 พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี นายปิยบุตร อุไรงาม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีสร้างบัญชีแอคเคาท์สื่อออนไลน์ปลอม หรือ อวตาร ล่อลวงเด็กสาวหลายรายให้ถ่ายภาพโป๊แนวคอสเพลย์ ก่อนแอบบันทึกเก็บไว้ข่มขู่แบล็กเมล์ให้ยอมทำตามข้อเรียกร้อง ว่าในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.)จะมีการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว เกี่ยวกับการวางกรอบแนวทางคดี

"ตร.ปคม." เร่งพิสูจน์ทราบเหยื่อ"ปิยบุตรคอสเพลย์อวตาร"เตรียมเอาผิดเพิ่ม

 

ขณะที่ในส่วนของการพิสูจน์ทราบตัวผู้เสียหาย จากคลิปวิดีโอหลักฐานต่างๆจำนวนมาก ที่ตรวจพบในเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และ โทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหานั้น เบื้องต้นสามารถระบุตัวตนแหล่งที่อยู่อาศัยเป็นที่แน่ชัดแล้วประมาณ 3-4 คน อยู่ระหว่างการติดต่อประสานเข้าสอบปากคำ นอกจากนี้คาดว่าจะสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเพื่อความรอบครอบ เนื่องจากเหยื่อมีจำนวนมาก

 

พ.ต.อ.มนูญ กล่าวต่อว่า จากการที่คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นเด็กและเยาวชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และกระจายเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. จึงได้สั่งการให้แต่ละ กองกำกับการในสังกัด บก.ปคม. บูรณาการกำลังร่วมกัน เพื่อให้การดำเนินการต่างๆรวดเร็วมากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้เตรียมประสานขอความร่วมมือไปยัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และอัยการ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆในการเอาผิดผู้ต้องหารายนี้ให้มีบทลงโทษมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน

 

ทั้งนี้ นายปิยบุตร อุไรงาม ได้รับการประกันตัวแล้ววานนี้ (อ่านรายละเอียดคลิกที่นี่)

"ตร.ปคม." เร่งพิสูจน์ทราบเหยื่อ"ปิยบุตรคอสเพลย์อวตาร"เตรียมเอาผิดเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในประเทศไทยมีกฎหมายที่ควบคุมดูแลเพียง พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก กฎหมายล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แต่ในต่างประเทศมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งในกรณีนี้คดีดังกล่าวจัดอยู่ในประเภท การเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ หรือ พฤติกรรมการเข้าหาเด็กโดยมีจุดประสงค์ทางเพศ child grooming

 

โดยพฤติกรรมของคนร้ายอาศัยความใกล้ชิด และค่อยๆ ตีสนิท ก่อนทำการก่อเหตุ ซึ่งจากรายงานของสภายุโรป การป้องกันเด็กจากทารุณกรรมผ่านเทคโนโลยีใหม่ ๆ (Protection of Children Against Abuse Through New Technologies) คณะทำงานได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่เริ่มเติบโตขึ้นเกี่ยวกับความรุนแรงต่อเด็กโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยกล่าวถึงการตระเตรียมเด็กผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ

ถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายหลักควบคุมเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่อาชญากรรมดังกล่าวเป็นอาชญากรรมรูปแบบหนึ่งที่มีความเฉพาะ ที่คนร้ายพยายามสร้างบาดแผลทางจิตใจเหยื่อ เป็นลักษณะการล่วงละเมิดทางจิตใจ ในต่างประเทศมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีบทลงโทษซึ่งจะนำไปสู่คดีในลักษณะดังกล่าว

 

ตัวอย่างเช่น ในคอสตาริกาตั้งแต่ปี 2556 กฎหมายอาญาได้ทำการล่อลวงเด็กทางเพศโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ผิดกฎหมาย โดยกำหนดโทษ 1-3 ปีสำหรับบุคคลที่พยายามเริ่มการสื่อสารเพื่อให้เกิดกามอารมณ์ หรือการสื่อสารทางเพศ กับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี

 

ในประเทศ เนเธอร์แลนด์ หากทำการตระเตรียมเด็กออนไลน์เพื่อทารุณกรรมทางเพศให้ผิดกฎหมาย โทษสูงสุดคือจำคุก 2 ปี หรือปรับ

"ตร.ปคม." เร่งพิสูจน์ทราบเหยื่อ"ปิยบุตรคอสเพลย์อวตาร"เตรียมเอาผิดเพิ่ม

ขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกามีการกำหนดบทลงโทษโดยเฉพาะมาตรา 2422 แห่งประมวลกฎหมายอาญากำหนดให้ความพยายามหรือการชักชวนชักจูงชักชวนหรือบีบบังคับบุคคลใดก็ตามที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าประเวณีหรือกิจกรรมทางเพศทางอาญาถือเป็นอาชญากรรมซึ่งการลงโทษอาจส่งผลให้ต้องจำคุก 15 ปีและปรับ

 

อย่างไรก็ตามมีกรณีตัวอย่างในเมืองโคโลราโดการดูแลเด็กมีความหมายเหมือนกันกับการล่อลวงและการล่อลวงทางอินเตอร์เน็ตการล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีโดยมีเจตนาทำร้ายทางเพศหรือติดต่อทางเพศโดยไม่ชอบด้วยกฏหมายถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีอาจส่งผลให้ต้อง รับโทษจำคุก2 ถึง 6ปีหรือปรับตั้งแต่ 2000 ถึง 5000 ดอลล่าร์ รวมทั้งอาจถูกตั้งข้อหาเป็นความผิดอาญาอื่นๆในกรณีเช่นเดียวกัน

 

ขณะเดียวกันในประเทศไทยมีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับคดีอาชญากรรมในรูปแบบนี้รวมทั้งมีการเพิ่มโทษกับผู้ต้องหาที่มีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว ซึ่งกรณีนี้อาจจะเป็นกรณีตัวอย่างที่จะทำให้มีการผลักดันกฎหมายได้ในอนาคต

logoline