จากสถานการณ์น้ำมันแพงที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนผลิต และทำให้ราคาสินค้าและบริการทยอยปรับขึ้น ซ้ำเติมหนี้ครัวเรือน และค่าครองชีพประชาชนที่รายได้ยังเท่าเดิมหรือน้อยลงแต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากการระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อเกือบ 3 ปี
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าของแพง น้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น ต้นทุนทำมาหากินก็เพิ่มขึ้น กำไรลดลง รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย มีเงินไม่พอใช้และมีหนี้สิน ไม่มีเงินเหลือเก็บ อยากให้ภาครัฐออกมาตรการที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง อยากให้เข้าถึงมาตรการต่าง ๆ ได้ง่ายกับคนทุกกลุ่มมากขึ้น อยากให้รัฐบาลรับฟังความเดือดร้อนช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่เสียงจากภาคเอกชนระบุว่า โจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำคือออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนไปพร้อมกับการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่สำคัญต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสร้างการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูแลดีเซลไม่ทะลุ 35 บาท/ลิตร ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบต่อเนื่อง จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้
ขณะเดียวกันรัฐบาลได้เตรียมอนุมัติมาตรการลดค่าครองชีพประชาชนในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์นี้ หลังจาก 10 มาตรการเยียวยาประชาชน จากผลกระทบของราคาพลังงาน เช่น มาตรการบรรเทาผลกระทบค่ากระแสไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย มาตรการช่วยเหลือคนที่ถือบัตรสวัสดิการ แห่งรัฐ มาตรการส่วนลด NGV สำหรับแท็กซี่มาตรการลดราคาน้ำมันให้กับวินมอเตอร์ไซด์จะสิ้นสุดลงในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งเบื้องต้นจะขยายเวลา มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ใกล้หมดอายุออกไปอีก 3 เดือน จนถึง ก.ย.นี้