ธนกร ซัด เพื่อไทย ตาบอดมา 8 ปี ถึงไม่เห็นผลงานรัฐบาล ย้อนดึงเสื้อแดงเพื่อใคร

19 มิถุนายน 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่า ประชาชนทนไม่ไหวแล้วกับสถานการณ์และเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำดีอะไรให้กับประเทศ ประชาชนอยากให้ประเทศชาติไปข้างหน้านั้น พรรคเพื่อไทยควรย้อนดูตัวเองด้วยว่า ที่ประเทศไทยต้องเจอกับสถานการณ์และเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้ เพราะรัฐบาลไหนทุจริตคอรัปชันมโหฬารชนิดที่อดีตนายกฯ ต้องหนีออกนอกประเทศ อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน

หาก 8 ปีที่ผ่านมานายกฯ ไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ วันนี้ประเทศคงจะแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันอีกนาน ประเทศคงจะถูกการทุจริตกัดกร่อนพรุนยิ่งกว่าบ้านถูกปลวกกัดกินไปนานแล้ว หรือที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมัวแต่สนใจว่าจะต้องช่วยใครคนใดคนหนึ่งให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนใช่หรือไม่ ถึงไม่เห็นว่าวันนี้หลายนโยบายของรัฐบาลถูกใจประชาชน ต่างเรียกร้องให้ออกนโยบายช่วยเหลือเพิ่มมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง หรือว่าพรรคเพื่อไทยทำใจไม่ได้ที่เห็นว่าประชาชนเริ่มสนใจนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น จึงกลัวว่าคะแนนนิยมของตัวเองจะตกลง

อย่างไรก็ตาม อยากให้พรรคเพื่อไทยย้อนถามตัวเองก่อนว่า การเชิญชวนแกนนำคนเสื้อแดงกลับมาร่วมงานกับพรรคอย่างออกหน้าออกตาอีกครั้งนั้น เป็นการทำเพื่อช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจริงหรือไม่ หรือกำลังทำเพื่อใครหรือไม่ ทั้งนี้ อยากเตือนคนเสื้อแดงว่า ขอให้ย้อนดูอดีตนายกฯ ท่านหนึ่งเป็นตัวอย่างให้ดี ที่ท่านเชื่อคำกล่อมว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ รอบที่ 2 แต่สุดท้ายก็ถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด จนต้องเดินออกจากสภาฯ กลับบ้านอย่างเดียวดาย วันนี้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งของคนในชาติมานานแล้ว อย่ากลับไปจุดเดิมอีกเลย

ส่วนกรณีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยระบุว่า ขอให้ชาวบ้านจับตาการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ให้ดี เพราะจะมีการเปิดเผยข้อมูลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเองก็คาดไม่ถึงว่า จะมีเรื่องแบบนี้อยู่ในยุคของท่านว่า เข้าใจได้ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคตัวเองหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 ลำปาง จึงพยายามคุยโวไว้ก่อนว่ามีข้อมูลอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อหวังจะให้ชาวลำปางเลือกผู้สมัครของพรรคตัวเอง หลังจากที่พ่ายแพ้ย่อยยับมาแล้วไม่รู้กี่สนาม

อย่างไรก็ตาม หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มีข้อมูลเด็ดจริงก็ขอให้นำมาอภิปรายในสภาฯ หากพบว่ามีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานที่เชื่อถือได้ รัฐบาลก็พร้อมนำไปตรวจสอบและขยายผลต่อไปอยู่แล้ว กลัวอย่างเดียวว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อย่าอภิปรายแต่เรื่องเดิมๆ ที่สภาฯ ไม่อนุญาต แต่ก็ยังจะดันทุรังพูดจนถูกปิดไมค์หรือเชิญออกจากห้องประชุม แล้วก็มาอ้างที่หลังว่าเสียดายข้อมูลเด็ดที่ไม่ได้อภิปราย ทั้งๆ ที่ทำตัวเองแท้ๆ เพราะจะถูกมองว่าไม่มีข้อมูลเด็ดจริงจึงต้องหาวิธีเอาตัวรอดได้