บุกวัดจับพระ 2 รูปทั้งเสพและค้ายาบ้าคากุฎิ

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง รอง ผกก.สส.สภ.นาขยาด อ.เมืองพัทลุง พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นกุฏิภายในวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง หลังได้รับรายงานจากสายลับว่า พระในวัดดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสติด ชนิดยาบ้าให้กับลูกค้าซึ่งเป็นพระลูกวัดด้วยกัน และยังจำหน่ายให้กับพระในวัดต่างๆในพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งยังมีพฤติการณ์มัวสุมเสพยาเสพติดเป็นประจำ

จากการตรวจสอบพบพระสายัณห์ นุมมี หรือพระการ อายุ 47 ปี ฉายาสีลเตโช กำลังเดินบริเวณหน้ากุฏิ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พระการมีอาการตกใจและมีพิรุธ พยายามเดินเลี่ยงเพื่อหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 255 เมตร อยู่ในกระเป๋าผ้าสีเหลือง คาดทับด้วยประคต จากการตรวจค้นภายในกุฏิพบอุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด อุปกรณ์เสพไอซ์ 1 ชุด นอกจากนั้นยังพบเขียง กัญชาผง และ อุปกรณ์เสพกัญชา 1 ชุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามพระการ สารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริง และตนจำหน่ายยาบ้าให้กับพระลูกวัดในวัดต่างๆจริง โดยมีนายปวีณ อนันต์กุล อายุ 30 ปี เป็นคนขับรถประจำวัด เป็นผู้ไปรับยาจากนายขวัญชัย ในพื้นที่ ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว ครั้งละ 400 เมตร ในราคา 5,000 บาท โดยมาแบ่งขายให้กับพระลูกวัด และพระในวัดใกล้เคียง ในราคา 3 เมตร 100 บาท พร้อมยอมรับว่าตนเองเสพยาทุกวัน วันนี้เสพไปแล้ว 30 เมตร ตนเสพยาบ้ามานานหลายปี ตั้งแต่ไม่บวชเป็นพระ จนกระทั่งมาบวชได้ 6 พรรษา ก่อนหน้านี้เคยถูกเจ้าอาวาสจับได้ จึงหยุดเสพไปประมาณ 2 ปี ด้วยเหตุผลอะไรก็บอกไม่ถูกจึงกลับมาเสพอีกพร้อมทั้งจำหน่าย

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวนายปวีณ คนขับรถประจำวัด และพระอภิชัย ชนะ อายุ 39 ปี หลังจากตรวจพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง ซึ่งทั้ง 2 ยังยอมรับว่าได้เสพยาบ้าจริง ซึ่งนายปวีณ ฯยอมรับว่าไปรับยาบ้ามาจากนายขวัญชัยจริง แต่ไม่ได้รับมาให้พระการ เพียงรับมาเพื่อเสพเฉพาะตัวเองเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงนำพระลูกวัดทั้ง 2 ส่งให้พระครูสังฆรักษ์สาวิทย์ อริโชโต เจ้าคณะอำเภอเขาชัยสน ประกอบพิธีลาสิกขาบท โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสักขีพยาน
 

พระครูสังฆรักษ์สาวิทย์ อริโชโต เจ้าคณะอำเภอเขาชัยสน และเจ้าอาวาสวัดดังกล่าวบอกว่า ก่อนหน้านี้เคยจับได้ว่าพระสายัณห์ ฯเสพยา พบยาบ้า 2 เม็ด จึงเรียกมาเพื่อจับสึก แต่พระสายัณห์ขอโอกาส จะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก จึงให้โอกาสแก้ตัว พร้อมสอบถามอยู่เรื่อยๆแต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จากการที่ไม่มีของกลางจึงไม่สามารถเอาผิดได้ จนกระทั่งมาถูกจับได้ในครั้งนี้ ส่วนนายปวีณฯคนขับรถ ก่อนหน้านี้มาบวชพระที่วัด หลังสึกออกไปก็ไม่มีงาน จึงให้มาขับรถของวัด จนหันไปมั่วสุมยาเสพติด จนถูกจับดังกล่าว

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว เพื่อดำเนินคดดีกับนายสายัณห์ ฯในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกระทำเพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน เสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ส่วนพระอภิชัย ฯถูกจับในข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหานายประวีณฯในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษขณะขับขี่ยานพาหนะ

ภาพ/ข่าว : ลัดดา  มณีรัตน์ สำนักข่าวเนชั่น จ.พัทลุง