คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มเปิดการไต่สวนครั้งแรกจากทั้งหมด 6 ครั้งในช่วงเวลาไพรม์ไทม์เมื่อคืนวันพฤหัสบดี หลังจากมีการสอบสวนมานานเกือบหนึ่งปี โดยมุ่งเน้นประเด็นที่ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน พยายามล้มล้างรัฐธรรมนูญและยื้ออำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากเหตุการณ์ผู้สนับสนุนของทรัมป์บุกไปที่อาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 เพื่อขัดขวางกระบวนการในรัฐสภาที่จะลงมติรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะ
เบนนี ทอมป์สัน ประธานคณะกรรมาธิการ ระบุว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. เป็นความพยายามก่อรัฐประหาร เป็นความพยายามอย่างอุกอาจ เพื่อล้มล้างรัฐบาล และเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่อุบัติเหตุ เป็นความ พยายามสุดท้ายของทรัมป์เพื่อขวางการถ่ายโอนอำนาจ นอกจากนี้เหตุการณ์บุกสภา และคำโกหกเรื่องการถูกปล้นคะแนนเลือกตั้งทำให้รัฐธรรมนูญอายุ 250 ปีตกอยู่ในความเสี่ยง
นอกจากนี้ลิซ เชนีย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ ระบุว่า ทรัมป์ปลุกระดมม็อบไปที่สภา จุดไฟความรุนแรง และไม่อาจหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในการไต่สวนครั้งนี้ยังมีพยานสองคนเข้าให้ปากคำด้วย ได้แก่ แคโรลีน เอ็ดเวิร์ดส์ ตำรวจรัฐสภา ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรงจากการเข้าสลายม็อบในวันเกิดเหตุ และ นิค เควสเต็ด ผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งถ่ายคลิปกลุ่มพราวด์ บอดี ที่เป็นกลุ่มขวาจัด และถูกกล่าวหาว่า วางแผนก่อความรุนแรงที่สภา
ตำรวจหญิงเอ็ดเวิร์ดส์ บอกว่า สิ่งที่เห็นในวันนั้นเป็นสถานการณ์สงครามเหมือนที่เห็นในภาพยนตร์ เห็นเพื่อนตำรวจเลือดอาบหน้า และตัวเองก็ย่ำอยู่บนเลือดของประชาชนที่นองบนพื้น เธอยังเล่าถึงนาทีถูกตีศีรษะด้วยขาตั้งจักรยาน ถูกผลักถอยหลังจนคางกระแทกกับราวจับบันได จนวูบเหมือนหมดสติและท้ายทอยกระแทกกับขั้นบันได
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการยังได้รับชมคลิปคำให้การจากบุคคลในรัฐบาลของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงอิแวนกา บุตรสาวของทรัมป์และจาเร็ด คุชเนอร์ สามีของเธอ และวิลเลียม บารร์ รัฐมนตรียุติธรรม
บารร์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งเพียงสองสัปดาห์ก่อนเหตุการณ์บุกสภา ให้การว่า เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดเรื่องข้อกล่าวหาว่ามีการโกงเลือกตั้ง และเขาไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ รวมทั้งบอกว่า เราไม่อาจอยู่ในโลก ที่มีรัฐบาลอยู่ในตำแหน่งด้วยความคิดที่ว่ามีการโกงเลือกตั้งโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุน และอิแวนกา ให้การด้วยว่า เธอเคารพบารร์ และยอมรับในสิ่งที่เขาพูด
เหตุรุนแรงจากการบุกสภาทำให้มี ผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยตำรวจนายหนึ่งเสียชีวิตในวันถัดมา และมีตำรวจบาดเจ็บกว่า 100 นาย นอกจากนี้ตำรวจอีก 4 นายฆ่าตัวตายในภายหลัง
คณะกรรมาธิการยังจบการไต่สวนนัดแรกด้วยการเปิดคลิปคำพูดของผู้ก่อเหตุจลาจลบุกสภาว่า พวกเขาไปที่สภาในวันนั้นตามคำบอกของทรัมป์ และในคลิปยังมีเสียงของ ทรัมป์ที่พูดใกล้ทำเนียบขาว บอกว่า เราจะไปที่รัฐสภา แต่เขาไม่ได้เดินไปด้วย ทำให้ผู้สนับสนุนบางคน บอกว่า รู้สึกผิดหวัง
ส่วนทรัมป์ซึ่งส่งสัญญาณว่าอยากลงสมัครเลือกตั้งในปี 2567 ออกแถลงการณ์ก่อนการไต่สวน โดยเรียกคณะกรรมาธิการว่า “อันธพาลการเมือง” และสมาชิกพรรครีพับลิกัน กล่าวหาว่า การไต่สวนที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์เป็นเพียงแผนของพรรคเดโมแครตเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชาวอเมริกันจากมรสุมทางการเมือง ที่พรรคเดโมแครตเผชิญในช่วงเวลาอีกเพียง 5 เดือนก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม