รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุ ความคืบหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการประมูลโครงการบริหารระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก หลังจากที่กรมธนารักษ์ได้ส่งรายงานการตรวจสอบกลับมาเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการตรวจสอบได้ส่งรายงานขึ้นมา และเห็นว่าในรายงานฉบับดังกล่าว ยังมีข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงสั่งการให้คณะกรรมการตรวจสอบ กลับไปเพิ่มเติมในเรื่องรายละเอียดขั้นตอนกระบวนการการคัดเลือก ที่ยังเป็นของสงสัยและปรากฏออกมาในสาธารณะ รวมถึงการตรวจสอบ 2.ตรวจสอบปริมาณน้ำที่ส่งให้แก่ผู้ใช้น้ำ เปรียบเทียบกับลักษณะทางกายภาพของท่อส่งน้ำว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และในเรื่องของการใช้ปริมาณน้ำมาเป็นพื้นฐานในการออก TOR ซึ่งจะมีความแตกต่างของ TOR ในการเปิดประมูลครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 โดยได้กำหนดระยะเวลาการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 30 วันนับตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.65
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการ เพื่อให้ฝ่ายตรวจสอบดำเนินการต่อไป ไม่ได้รอให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปก่อน
ผู้สื่อข่าวได้ถามนายอาคมว่า มีความหนักใจหรือไม่ ที่ตนเอง จะเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในเรื่องนี้ด้วย นายอาคม กล่าวว่า จะต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ โครงการท่อน้ำอีอีซีนั้น ปัจจุบันทางบริษัท อีสท์วอเตอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ แต่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2566 ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงได้เปิดประมูล เพื่อหาผู้ดำเนินโครงการต่อไป โดยทางอีสท์วอเตอร์ได้เสนอผลตอบแทนให้กับรัฐต่ำกว่าบริษัทวงษ์สยามฯ ทำให้บริษัทวงษ์สยามฯเป็นผู้ชนะการประมูลในราคา 2.5 หมื่นล้านบาท อายุการดำเนินโครงการ 30 ปี