รัสเซียประณามสหรัฐฯ จงใจเติมไฟสงคราม

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพุธ ( 1 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศจัดส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์มูลค่า 700 ล้านดอลลาร์เพิ่มเติมให้กับยูเครน เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการสู้รบขณะนี้ ประกอบด้วย จรวดหลายลำกล้องขนาดเบาติดตั้งบนรถบรรทุก HIMARS จรวดนำวิถีที่มีพิสัยการยิงระยะกลาง 70 กม. เรดาร์ตรวจจับปืนใหญ่ เรดาร์สอดแนมทางอากาศ จรวดต่อสู้รถถัง “เจฟลิน” อีก 1,000 ลูก กระสุนปืนใหญ่ 15,000 นัด และเฮลิคอปเตอร์ Mi-17

การแถลงมีขึ้นแม้ประธานาธิบดีไบเดน ยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า จะไม่จัดส่งจรวดพิสัยไกลที่ยิงได้ถึงรัสเซียให้ยูเครน แต่วันถัดมาเขาบอกว่า จะจัดส่งระบบจรวดที่ล้ำสมัยและมีความแม่นยำมากขึ้นให้ยูเครนเพื่อใช้ในสนามรบ และเพิ่มอำนาจการต่อรองในการเจรจากับรัสเซีย เพื่อให้การหาทางออกด้วยวิถีทางการทูตมีความเป็นไปได้มากขึ้น รวมทั้งยืนยันว่า จะไม่ส่งเสริมให้ยูเครนโจมตีข้ามพรมแดน และสหรัฐฯ ไม่ต้องการทำให้สงครามยืดเยื้อเพียงเพื่อสร้างความเสียหายให้รัสเซีย

นอกจากนี้ทั้งรัฐบาลสหรัฐฯและยูเครนให้ความมั่นใจว่า จรวดดังกล่าวจะไม่ถูกนำไปใช้โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

แต่ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน แถลงว่า รัสเซียไม่ไว้ใจคำสัญญาของยูเครน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยปฏิบัติตามคำสัญญาสักครั้ง และกล่าวหาว่า สหรัฐฯ จงใจราดเชื้อเพลิงเข้ากองไฟ และดูเหมือนว่าสหรัฐฯ ยืนยันจะต่อสู้กับรัสเซียจนกระทั่งเหลือชาวยูเครนคนสุดท้าย พร้อมทั้งบอกว่า การจัดส่งอาวุธไม่ช่วยให้ผู้นำยูเครนอยากเริ่มการเจรจาสันติภาพอีกครั้ง

นอกจากนี้เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย บอกว่า การประกาศของไบเดนเสี่ยงทำให้สหรัฐฯ ถูกดึงเข้าสู่สงคราม และข้อเรียกร้องของยูเครนที่ต้องการอาวุธจากชาติตะวันตกเป็นการยั่วยุที่มุ่งดึงตะวันตกเข้าสู่การสู้รบ