1 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ เข้าพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อแจ้งความเอาผิด น.ส.พริมวรินทร์ พิธาวรเสฐ หรือ สีกาตอง ในฐานความผิด ข่มขู่รีดเอาทรัพย์ จากกรณีถูกข่มขู่เรียกเงินเพื่อปกปิดเรืองอื้อฉาวที่เกิดขึ้นนั้น
ล่าสุด ที่กองบังคับการปราบปราม นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ วิริยะ พร้อมด้วย น.ส.ชลวิภา วิริยะกุล หรือทนายเฟิร์น เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง ตามหมายเรียกเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีดังกล่าว
นายวิริยะ กล่าวว่า วันนี้ได้รับการติดต่อจากตำรวจ เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน ในคดีของอดีตพระกาโตะกับสีกาตอง เนื่องจากก่อนหน้านี้สีกาตองเคยติดต่อตน ขอให้ไปออกรายการโหนกระแสด้วยกัน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดการของสีกาตองแต่อย่างใด และไม่เคยทราบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวมาก่อน มาทราบเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตนเองก็ได้ให้คำปรึกษาและตักเตือนกับสีกาตองว่า ไม่สนับสนุนการกระทำที่ปรากฏเป็นเรื่องอื้อฉาว และให้ขอโทษสังคม อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้อยู่เบื้องหลังแต่อย่างใด
โดยตนจะชี้แจง ถึงความจริงที่เกิดขึ้น และยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่เคยให้การสนับสนุนสีกาตองแต่อย่างใด เป็นเพียงการให้คำปรึกษาในเรื่องต่างๆ เท่านั้น พร้อมให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกเช่นกัน นอกจากนี้ ตนเองก็ถูกผู้คนพาดพิงและต่อว่า แต่แยกแยะได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ซี่งตนเองก็มีความคิดที่จะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้น แต่ต้องขอปรึกษาทนายความก่อน อย่างไรก็ตาม ตนเองก็คงไม่ได้ตัดขาดจากสีกาตอง และเคยมีความตั้งใจที่จะนำมาร่วมงานกัน แต่มาเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นเสียก่อน
ขณะที่ทนายชลวิภา กล่าวว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เนื่องจากอดีตพระกาโตะแจ้งความสีกาตอง ในเรื่องการรีดเอาทรัพย์ ซึ่งอดีตพระกาโตะน่าจะได้มีการแจ้งข้อมูลว่า สีกาตองมีการปรึกษากับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และ นายวิริยะ จึงเป็นที่มาของการเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการดำเนินคดีความระหว่างสีกาตองกับอดีตพระกาโตะอย่างไรนั้น ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว เพราะนายวิริยะไม่ใช่ผู้สนับสนุนหรือผู้อยู่เบื้องหลัง