กลุ่มทัวร์ไทยไม่ถึงฝัน พบเชื้อโควิดที่ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่น ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศ ที่ใช้ระบบการควบคุมไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดที่สุดในโลก ที่รวมทั้งการห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมชม "โตเกียว โอลิมปิก 2020" เมื่อปี 2021 ที่ถูกมองว่า เป็นการ "ฝืนจัดการแข่งขัน" เพราะในขณะนั้น ยังมีผู้ติดเชื้อวันละ 5,000 คน แต่แรงกดดันที่ต้องรักษาหน้า หลังจากทุ่มทุนไปกับการเป็นเจ้าภาพสูงเป็นลำดับต้นๆ ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายในการประมูล การเตรียมความพร้อมของสถานที่จัดการแข่งขัน และค่าใช้จ่ายจากการเลื่อนการแข่งขัน 1 ปี รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 15,400 ล้านดอลลาร์ (กว่า 5 แสนล้านบาท) อีกทั้งรายได้ที่คาดว่าจะได้ก็มาสูญเสียไป ตั้งแต่รายได้จากบัตรเข้าชมและการจับจ่ายของนักกีฬา ครอบครัวและกองเชียร์ ที่หายไปถึง 90% ของรายได้ที่ประเมิน 

แต่หลังจากทนเจ็บตัวปิดประเทศไป 2 ปี ญี่ปุ่นก็ประกาศความพร้อมเปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวจาก 98 ประเทศ ในหลายภูมิภาคของโลก ในวันที่ 10 มิถุนายน แต่แม้จะถือป็นการผ่อนคลายมาตรการ แต่ก็ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ยังมีข้อจำกัดบางประการ รวมทั้งข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ในรูปแบบการทัวร์เป็นหมู่คณะ และทำการทดลองด้วยการเปิดรับกรุ๊ปทัวร์นำร่องจาก 4 ประเทศ "กลุ่มสีน้ำเงิน" ที่จัดตามประเภทความเสี่ยง (แดง เหลือง น้ำเงิน) และประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของสีน้ำเงิน ร่วมกับสหรัฐฯ ออสเตรเลียและสิงคโปร์ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 4 ข้อ คือ ต้องฉีดวัคซีนที่กำหนดครบ 3 เข็ม, มีประกันสุขภาพของเอกชน, ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องบิน 72 ชั่วโมง และตรวจ ATK เมื่อถึงญี่ปุ่น

คณะทัวร์ชาวไทย เดินทางถึงญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันแรกของการทัวร์4 คืน 5 วัน จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม และสื่อญี่ปุ่นได้รายงานข่าวนี้กันอย่างเอิกเกริก เช่นเดียวกับกลุ่มทัวร์ของอีก 3 ชาติ โดยแพลนของคณะทัวร์ไทยคือ การเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะและแช่ออนเซ็นที่จังหวัดโออิตะ แต่ล่าสุด สื่อญี่ปุ่นทุกสำนัก ได้รายงานว่า 1 ในสมาชิกคณะทัวร์ไทย ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะท่องเที่ยวที่จังหวัดโออิตะทำให้ต้องยกเลิกแผนการท่องเที่ยวที่เหลือทั้งหมด รวมทั้งสมาชิกอีก 3 คนด้วย 

สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า นักท่องเที่ยวคนหนึ่งในคณะทัวร์ ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อหลังบ่นว่าเจ็บคอ เมื่อวันจันทร์ แต่ไม่มีไข้ และคาดว่าจะต้องกักตัวอยู่ในสถานที่ ที่จัดไว้สำหรับผู้ที่ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ ส่วนบริษัทนำเที่ยวที่รับผิดชอบคณะทัวร์กลุ่มนี้ กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่ทางการญี่ปุ่น เพื่อจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนอีก 3 คน ที่เหลือ ซึ่งติดต่อใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ กำลังกักตัวแยกกันที่โรงแรม แต่พวกเขายังมีผลเป็นลบจากการตรวจหาเชื้อแบบเร่งด่วน (Antigen Test) และไม่มีอาการใดๆ

ไม่แน่ชัดว่า เหตุการณ์นี้ จะเกี่ยวข้องกับการที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เตรียมเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เกี่ยวกับมาตรการรับนักท่องเที่ยวว่า จะต้องมีประกันสุขภาพจากบริษัทเอกชนที่ต่อไปจะมีการกำหนดวงเงินด้วยหรือไม่ เพียงแต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่า "อยู่ที่เท่าไหร่" ท่ามกลางความวิตกว่าจะยิ่งทำให้การเดินทางไปญี่ปุ่นมีข้อจำกัดที่ยากยิ่งขึ้น

ท่ามกลางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดแบบสุดลิ่มของญี่ปุ่น ทีมวิจัยของ "ริเกน" (RIKEN) สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่ ได้จับมือกับมหาวิทยาลัยโตเกียว 
พัฒนาเครื่องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่รู้ผลภายใน 9 นาที และให้ผลตรวจที่แม่นยำเทียบเท่า หรือมากกว่าชุดตรวจ PCR ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยขั้นตอนการใช้งานคือ นำน้ำลาย หรือตัวอย่างที่จะตรวจ ผสมกับน้ำยาที่พัฒนาโดยทีมวิจัย ที่จะทำให้เกิดแสง  ถ้าความสว่างของแสงเกินกว่าหน่วยที่กำหนด ก็คือติดเชื้อ และนอกจากเครื่องตรวจจะให้ผลว่าติดเชื้อหรือไม่แล้ว ยังบอกสายพันธุ์ที่ติดได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม จนถึงสายพันธุ์โอมิครอน ส่วนค่าใช้จะพอๆ กับการตรวจ PCR หรือ Antigen test โดยอยู่ที่ครั้งละ 200 เยน หรือไม่ถึง 60 บาท และจะเริ่มวางขายในปีงบประมาณนี้ แต่จะเป็นการใช้งานเพื่อการวิจัยเพื่อหาข้อสรุปผลการใช้งานไปก่อน