29 พฤษภาคม 2565 หลังจาก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ” กรณีพบลูกความถูกทนายอ้างว่ารู้จักทนายตั้ม หลอกให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือทางคดีของลูกชายจนเป็นหนี้หลักล้าน
ล่าสุดที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นายเสถียร จันทจร อายุ 55 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้เดินทางมาพร้อมกับ นายษิทรา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายนราธิป สุขประเสริฐ อายุ 25 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นทนายความในเครือข่ายทนายตั้ม หลอกนายปัญญา จันทจร อายุ 28 ปี บุตรชายนายเสถียร ว่า ถูกหญิงสาวแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะนี้ศาลดอนเมืองออกหมายจับแล้ว ให้นายปัญญา ที่ทำงานอยู่จังหวัดชายแดนใต้รีบขึ้นมาเคลียคดี
เมื่อมาถึง ทนายปลอมก็วิ่งขึ้น-ลงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ แล้วหลอกว่าประกันตัวให้แล้ว ต้องใช้เงิน 2 หมื่น ลูกชายจึงขอให้พ่อโอนเงินมาจ่ายให้ทนายปลอม จากนั้นก็หลอกว่าจะวิ่งย้ายคดีไปศาลจังหวัดลพบุรี เพื่อง่ายต่อการเคลียร์คดี โดยอ้างรู้จักกับศาล หลอกเงินมาวิ่งตำรวจทำคดีให้เบา หลอกเงินมาวิ่งอัยการให้สั่งไม่ฟ้อง หลอกเงินไปติดสินบนศาล โดยทำเอกสารปลอมขึ้นมาประกอบการหลอกผู้เสียหาย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
โดยเหตุเกิดวันที่ 8 เมษายน 2565 ต่อเนื่องหลายครั้งถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 รวมยอดเงิน 1,300,000 บาท สุดท้ายเรื่องมาแตกเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังเพื่อนของทนายตั้มโทรมาแจ้งกับทนายตั้ม จึงได้สอบถามผู้เสียหาย ก่อนพากันมาแจ้งความดำเนินคดีกับทนายปลอมคนดังกล่าว
นายษิทรา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ พบว่าเป็นเอกสารปลอม ไม่ใช่เอกสารที่ออกโดยราชการ และระหว่างการหลอกเงินจากนายปัญญา ก็ได้หลอกใช้รถของนายปัญญาไปช่วยขับรถให้ หลอกให้นายปัญญาไปเลี้ยงผู้หลักผู้ใหญ่หลายต่อหลายครั้ง จึงได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับทนายปลอม
ทั้งนี้นายษิทราและผู้เสียหายได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.สามพราน และ สภ.โพธิ์แก้ว
ด้านพ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวชยเดช ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์แก้ว เปิดเผยว่า นายนราธิป ทนายปลอม เคยมีคดีในลักษณะใกล้เคียงกันมาแล้ว แต่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความกัน จึงไม่ได้ดำเนินคดี ส่วนการติดตามตัวมาดำเนินคดีครั้งนี้ เชื่อว่าไม่ยาก
ปนิทัศน์ - ปณิดา มามีสุข รายงาน