27 พฤษภาคม 2565 นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการปลดล็อกกัญชา กัญชง ซึ่งมีผลในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 นั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขานรับการปลดล็อกเพื่อให้กัญชาสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ โดยปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเอื้อให้ผู้ประกอบการสามารถผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างมีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังคงไว้เพื่อความปลอดภัย
ปัจจุบันการนำส่วนของกัญชา กัญชง และสารสกัด CBD มาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารที่ผลิตเพื่อจำหน่าย ต้องมีการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข(ฉบับที่ 425) พ.ศ. 2564 ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการใช้ประโยชน์จากเมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง โปรตีนจากเมล็ดกัญชง (ฉบับที่ 427) พ.ศ. 2564 ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการใช้ประโยชน์จากเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน รากและใบซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย และ (ฉบับที่ 429) พ.ศ. 2564 ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการใช้ประโยชน์จากสารสกัดแคนนาบิไดออล
โดยสามารถขอขึ้นทะเบียนตำรับอาหารหรือขออนุญาตใช้ฉลากอาหาร เพื่อรับเลขสารบบอาหาร และต้องมีคุณภาพ หรือมาตรฐาน เงื่อนไขชนิดอาหาร ปริมาณ THC/CBD และแสดงคำเตือนเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย ต้องดำเนินการยื่นขอรับเลขสถานที่ผลิตอาหารและเลขสารบบอาหาร โดยกรณีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้จากกองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือหากสถานที่ผลิตตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ให้ติดต่อได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตามจังหวัดนั้น ๆ
รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า สถานประกอบการอาหารที่ปรุงเพื่อจำหน่ายภายในร้านอาหาร หรือสถานที่อื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน รวมถึงการบริการจัดส่งอาหารให้กับผู้ซื้อ ไม่ต้องขออนุญาตกับ อย. แต่สถานประกอบการ ต้องปฏิบัติตามประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหารในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ดังนี้..
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตบรรจุในภาชนะบรรจุจากสถานประกอบอาหารที่ปรุงเพื่อจำหน่าย ขอความร่วมมือให้แสดงข้อความ “ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนของกัญชา/กัญชง” หรือ “สัญลักษณ์ที่สื่อถึงกัญชา กัญชง” หรือข้อความที่สื่อความหมายในทำนองเดียวกัน หรือมีการสื่อสารช่องทางแนะนำการบริโภคที่ถูกต้องตามประกาศฯของกรมอนามัยบนภาชนะบรรจุอาหาร