ชัชชาติ เผย สวนลุมฯเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ว่าฯ ระบุ 3 สิ่งแรกต้องทำ

23 พฤษภาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทำภารกิจแรกในการวิ่งรอบสวนลุมพินีครบ 4 รอบ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ตามปกติ ซึ่งวันนี้นายชัชชาติ สวมรองเท้าคู่ใจ สีขาวข้างหนึ่ง สีดำข้างหนึ่ง ที่มีรุ่นและไซส์เดียวกัน มาวิ่ง โดยกล่าวว่า เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการบริหารความขัดแย้ง เพราะกรุงเทพฯมีความแตกต่าง ดังนั้นจะต้องบริหารความแตกต่างให้ได้

โดยสวนลุมพินี เป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดและแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ว่าฯ กทม. เพื่อเปลี่ยนเมือง โดยได้พูดคุยกับเพื่อนๆ พบปะผู้คน และสถานที่แห่งนี้เคยเป็นศูนย์รวมของความแตกต่าง และความขัดแย้ง จึงเชื่อว่า ทำให้รวมเป็นหนึ่งได้ เพราะคนสนับสนุนเราในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับ ยังมีประชาชนมาขอถ่ายรูปแสดงความยินดีด้วยตลอดเส้นทาง โดยทีมเพื่อนชัชชาติ ที่มาร่วมวิ่งด้วยกันในวันนี้ต่างร่วมกันเพลง อวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า ที่จะถึงในวันที่ 24 พ.ค. ครบรอบ 56 ปี ให้กับนายชัชชาติ ด้วย โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า จำได้ว่า 8 ปีที่แล้ว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ในค่ายทหาร และยอมรับว่า ไม่ใช่ความสำเร็จของตนเองเพียงคนเดียว แต่มีทีมงานที่เก่งและมีความคิดนอกกรอบ ซึ่งหากเป็นการเมืองแบบเดิมๆคงไม่ได้คิดรูปแบบนี้ และทำให้ตอนนี้มีแฟนคลับทุกกลุ่ม เพราะเราต้องดูแลทุกคน

โดยหลังจากจบภารกิจวิ่งในช่วงเช้า ก็จะกลับไปหาคุณแม่ ส่วนลูกชายได้โทรมาแสดงความยินดีตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะเริ่มภารกิจต่อไปในการลงพื้นที่ดูปัญหาจุดน้ำท่วม และช่วงเย็นลงพบพี่น้องชาวชุมชนคลองเตย

พร้อมทำงานทันที เผย 3 สิ่งแรก คุยกับข้าราชการ-จัดลำดับปัญหา-แก้ปัญหาปากท้อง ปชช. ยันใครเป็นรัฐบาลทำงานได้หมด ไม่ขอมองการเมืองใหญ่ เชื่อ รัฐบาลเตรียมการเลือกตั้ง ดูบทเรียนผู้ว่ากทม.ปรับกลยุทธ์

อย่างไรก็ตามก่อนการวิ่ง นายชัชชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ภายในกลุ่มเพื่อนๆมีการบนว่าหากชนะ จะให้ตนวิ่ง 8 รอบตามเลขผู้สมัครของตนเองด้วย และยืนยันว่าตนเองลงสมัครเพียงคนเดียว แต่มีกลุ่มเพื่อนช่วยสนับสนุนกับการลงสมัครอิสระ “ทำให้คิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียวนะ มีหลายคนที่คิดว่าไม่อยากยุ่งการเมืองใหญ่ แต่อยากทำเมืองให้ดีขึ้น” ทั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากชมรมนักวิ่งตามส่วนต่างๆในกรุงเทพฯ เช่น สวนจตุจักร สวนแต้จิ๋ว สวนรถไฟ มองว่าเป็นจุดดเริ่มต้นที่มีพลัง

ส่วนความพร้อมในการทำงานผู้ว่ากทม. นายชัชชาติ ตอบทันทีว่า เตรียมชุดไปทำงานได้เลยทันที และในเมื่อประชาชนสั่งไปทำงาน ก็ต้องทำงานที่ดี คาดว่าในวันนี้อาจเดินทางไปลงพื้นที่ว่าจุดไหนมีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ถ้าฝนตก ก็ไปเลย และยืนยันว่า พร้อมทำงานตั้งแต่วินาทีนี้ และทีมงานก็ดีมาก มีพลังในการทำงาน

ส่วนการรับตำแหน่งพร้อมกับหน้าฝน ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาแรกที่ลงไปจัดการหรือไม่ นายชัชชาติ ตอบว่า แม้ปัญหาน้ำท่วมจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ชาวกรุงเทพฯ นึกถึง แต่ต้องไม่ลืมปัญหาพื้นฐานอื่นๆ เช่น ทางม้าลาย ความปลอดภัยบนท้องถนน ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนกังวล ดังนั้น ทุกอย่างต้องเริ่มวางแผน คิดว่าจะเพิ่มอะไรขึ้นบ้าง นโยบายรายเขตที่เคยนำเสนอ ส่วนจะลงเขตไหนเป็นเขตแรก ยังระบุไม่ได้

ส่วน 3 สิ่งแรกที่จะทำทันทีคือ การหารือกับข้าราชการ กทม. เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของตน  ต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหาที่ต้องแก้ไข  และปัญหาปากท้องประชาชน

ทั้งนี้ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงกว่า 1.3 ล้านคะแนน เป็นกำลังใจที่ก้าวเดินต่อไป ขอให้อย่ายึดติดมากกับคะแนน สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อดูแลคนกรุงเทพฯ 6 ล้านคน อย่างเท่าเทียมกัน

ส่วนประเด็นทางการเมืองนั้น​ การเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้จะส่งสัญญาณไปถึงการเมืองใหญ่หรือไม่ นายชัชชาติ ระบุว่า ยังไม่อยากให้มองไปไกลถึงขั้นนั้น ไม่อยากให้แบ่งขั้วการเมืองว่าเป็นฝั่งประชาธิปไตยหรือฝั่งใด ตอนนี้ตนเองมาเป็นผู้ว่าฯ ของทุกคน ตนเองไม่อยากผูกมัดกับการเมืองใหญ่ ย้ำว่าใครจะเป็นรัฐบาล ตนต้องทำงานร่วมกันให้ได้ ส่วนจะเป็นการสร้างแรงกดดันไปถึงรัฐบาลหรือไม่ ก็แล้วแต่คนตีความ ทั้งนี้เชื่อว่า รัฐบาลใหญ่หากเตรียมจัดการเลือกตั้งคงต้องดูบทเรียนจากการเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม. เพื่อปรับกลยุทธ์เหมือนกัน แต่ตนเองไม่ได้ดูไกล ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะพยายามจะเป็นผู้ว่าของทุกคน

ด้านกระแสหลังเลือกตั้ง ที่มีคนเก็บป้ายหาเสียงของตนเองไปทำเป็นกระเป๋านั้น จะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนหรือไม่​ นายชัชชาติ กล่าวว่า มอบหมายให้ทีมงานและฝ่ายกฎหมายติดตามเรื่องนี้ ส่วนตัวพยายามเก็บให้ได้มากที่สุด ไม่กังวลว่าจะถูกร้องเรียน